อาจารย์ณภัทรษกร สารพัฒน์
สาขาวิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ลพบุรี
บทที่ 4
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
Outline
o การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์
o การเคลื่อนที่แบบวงกลมด้วยความเร็วคงที่
o การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
การเคลื่อนที่แบบโพรเจคไตล์ คือ การเคลื่อนที่ในแนวโค้งพาราโบลา ซึ่งเกิด
จากวัตถุได้รับความเร็วใน 2 แนวพร้อมกัน คือ ความเร็วในแนวราบและ
ความเร็วในแนวดิ่ง ตัวอย่างของการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ ได้แก่ ดอกไม้
ไฟ น้าพุ การเคลื่อนที่ของลูกบอลที่ถูกเตะขึ้นจากพื้น การเคลื่อนที่ของนัก
กระโดดไกล
การเคลื่อนที่แบบโพรเจคไตล์
ตัวอย่างในชีวิตประจาวัน
𝒗 𝟐
𝒗 𝟑
𝒗 𝟏
− 𝑔
− 𝑔
− 𝑔
1
2
3
ตัวอย่างในชีวิตประจาวัน𝒚
𝒙
𝒗 𝟐
𝒗 𝟑
𝒗 𝟏
− 𝑔
− 𝑔
− 𝑔
𝒗 𝒙𝟏
𝒗 𝒚𝟏
𝒗 𝒚𝟐 = 𝟎
1
2
3
= 𝒗 𝒙𝟐
𝒗 𝒙𝟑
𝒗 𝒚𝟑
𝜽
𝒗 𝒚 = 𝒗 sin 𝜃
𝒗 𝒙 = 𝒗 cos 𝜃
𝒗 𝟏
− 𝑔
𝒗 𝒙𝟏
𝒗 𝒚𝟏
การเคลื่อนที่แบบโพรเจคไตล์
o ในแนวราบ (แนวแกนX) วัตถุจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงตัว (ไม่มีแรงกระทา)
และความเร่งในแนวราบเป็นศูนย์
o ในแนวดิ่ง (แนวแกนY) วัตถุจะเคลื่อนที่อย่างเสรีภายใต้แรงโน้มถ่วงคงตัว
และความเร่งในแนวดิ่งคือความเร่งโน้มถ่วงของโลก
o จึงทาให้แนวทางการเคลื่อนที่เป็นแนว โค้งพาราโบลา เช่น การเคลื่อนที่ของ
ก้อนหินเมื่อถูกขว้างออกไปแนวระดับ การเคลื่อนที่ของลูกฟุตบอลที่ถูกเตะ
การเคลื่อนที่ของลูกปืนใหญ่ที่ถูกยิง เป็นต้น
𝒚
𝒙
𝜽
การทดลองการเคลื่อนที่แบบโพรเจคไตล์
− 𝑔
𝒕 𝟎
𝒕 𝟏
𝒕 𝟐
𝒕 𝟑
𝒕 𝟎 𝒕 𝟏 𝒕 𝟐 𝒕 𝟑
−𝒚
𝒙
𝒗
− 𝑔
𝒗 𝒙𝟏
𝒗 𝒚
รูปแบบของการเคลื่อนที่แบบโพรเจคไตล์
1. ความเร็วต้นตามแนวระดับ
𝒚
𝒙
𝜽
𝒗
2. ความเร็วต้นทามุมกับแนวระดับ
− 𝑔
1. ความเร็วต้นตามแนวระดับ
a) หาความเร็ว ณ จุดใดๆ (มีทิศ
สัมผัสกับเส้นทางเดิน ณ จุดนั้น)
𝒗
𝒗
𝒗 𝒙
𝒗 𝒚
𝜽
𝒗 𝟐 = 𝒗 𝒙
𝟐 + 𝒗 𝒚
𝟐
𝜽 = 𝐭𝐚𝐧−𝟏
𝒗 𝒚
𝒗 𝒙
b) หาการกระจัด ณ จุดใดๆ
𝒔 𝒙
𝒔 𝒚
𝑠2 = 𝑠 𝑥
2 + 𝑠 𝑦
2
− 𝑔
1. ความเร็วต้นตามแนวระดับ𝒗
𝒗𝒗 𝒙
𝒗 𝒚𝜽
หลักการคานวณ
• ตั้งแกน X ให้อยู่ในแนวระดับ และ แกน Y อยู่ใน
แนวดิ่ง โดยจุดกาเนิด(origin) ต้องอยู่ที่จุดเริ่มต้น
• แตกเวกเตอร์ทุกค่าคือ ความเร็ว ระยะทาง ให้อยู่ใน
แนวแกน X และ Y
• ax = 0 และ ay = -g
− 𝑔
2. ความเร็วต้นทามุมกับแนวระดับ𝒚
𝒙
𝒗 𝟐𝒗 𝒚𝟐 = 𝟎
2
3
= 𝒗 𝒙𝟐
𝑣 = 𝑣 𝑥 𝑖 + 𝑣 𝑦 𝑗
𝑣 𝑦 = 𝑣 𝑠𝑖𝑛 𝜃 และ 𝑣 𝑥 = 𝑣 cos 𝜃
𝒗 𝟑
𝒗 𝒙𝟑
𝒗 𝒚𝟑
𝒗 𝟏
𝒗 𝒙𝟏
𝒗 𝒚𝟏
1 𝜽
𝒔 𝒚
𝒔 𝒙
− 𝑔
สูตรการคานวณการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไตล์
ในแนวดิ่งในแนวราบ
ความเร็วในแนวราบคงที่ ax = 0 ความเร็วในแนวดิ่งไม่คงที่ ay = -g
𝒔 𝒙 = 𝒖 𝒙 𝒕
𝒗 𝒙 = 𝒖 𝒙
𝒗 𝒙
𝟐
= 𝒖 𝒙
𝟐
𝒔 𝒚 = 𝒖 𝒚 𝒕 −
𝟏
𝟐
𝒈𝒕 𝟐
𝒗 𝒚 = 𝒖 𝒚 − 𝒈𝒕
𝒗 𝒚
𝟐
= 𝒖 𝒚
𝟐
− 𝟐𝒈 ∙ 𝒔 𝒚
สูตรการคานวณการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไตล์
การเวลาที่วัตถุอยู่ที่จุดสูงสุด• จาก 𝒗 𝒚 = 𝒖 𝒚 − 𝒈𝒕
• ที่จุดสูงสุด ความเร็วในแนวดิ่ง 𝒗 𝒚 = 𝟎
𝟎 = 𝒖 𝒚 − 𝒈𝒕
• เวลาที่วัตถุอยู่ที่จุดสูงสุด 𝒕 =
𝒖 𝒚
𝒈
• เวลาที่วัตถุอยู่ที่จุดสูงสุดจนตกถึงพื้น
• 𝑻 = 𝟐𝒕 =
𝟐𝒖 𝒚
𝒈
𝒗 𝒚 = 𝟎
𝒗 𝒙
𝒖 𝒙
𝒖 𝒚
𝒔 𝒚
− 𝑔
สูตรการคานวณการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไตล์
การกระจัดที่วัตถุอยู่ที่จุดสูงสุด• จาก 𝒗 𝒚
𝟐 = 𝒖 𝒚
𝟐 − 𝟐𝒈 𝒔 𝒚
• ที่จุดสูงสุด ความเร็วในแนวดิ่ง 𝒗 𝒚 = 𝟎
𝟎 = 𝒖 𝒚
𝟐
− 𝟐𝒈 𝒔 𝒚
• การกระจัดที่วัตถุอยู่ที่จุดสูงสุด 𝒔 𝒚 =
𝒖 𝒚
𝟐
𝟐𝒈
𝒗 𝒚 = 𝟎
𝒗 𝒙
𝒖 𝒙
𝒖 𝒚
𝒔 𝒚
− 𝑔
สูตรการคานวณการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไตล์
วัตถุจะตกถึงพื้นได้ไกลที่สุดจากจุดยิง
• การกระจัดที่วัตถุตกถึงพื้นจากจุดยิง 𝒔 𝒙 = 𝒖 𝒙 𝑻
𝒔 𝒙 =
𝟐𝒖 𝒙 𝒖 𝒚
𝒈
=
𝟐𝒖 cos 𝜽 𝒖 sin 𝜽
𝒈
=
𝟐𝒖 𝟐 cos 𝜽 sin 𝜽
𝒈
• เมื่อ 2 cos 𝜽 sin 𝜽 = sin 2𝜽
𝒔 𝒙 =
𝒖 𝟐 sin 2𝜽
𝒈
• วัตถุจะตกถึงพื้นได้ไกลที่สุดจากจุดยิง(เตะ)
𝒖
𝒖 𝒙
𝒖 𝒚
𝜽 =? ? ?
สูตรการคานวณการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไตล์
วัตถุจะตกถึงพื้นได้ไกลที่สุดจากจุดยิง
• วัตถุจะตกถึงพื้นได้ไกลที่สุดจากจุดยิง(เตะ) ทามุม 𝜽 = 45°
𝒔 𝒙 =
𝒖 𝟐 sin 2𝜽
𝒈
𝒔 𝒙 =
𝒖 𝟐 sin 2 𝟒𝟓°
𝒈
 𝒔 𝒙 =
𝒖 𝟐 sin 𝟗𝟎°
𝒈
• เมื่อ sin 𝟗𝟎° = 𝟏 ดังนั้น 𝒔 𝒙 =
𝒖 𝟐
𝒈
𝒖
𝒖 𝒙
𝒖 𝒚
𝜽
𝒔 𝒙
− 𝑔
นักอเมริกันคนหนึ่งฟุตบอลเตะลูกบอลทามุม 30o กับแนวระดับด้วย
ความเร็วต้น 80 เมตร/วินาที จงหาว่าเมื่อลูกบอลเคลื่อนที่ไปได้ 3 วินาที
จะมีความเร็วเท่าไร และใช้เวลานานเท่าไรลูกบอลนั้นจึงตกถึงพื้น
ตัวอย่าง 14
30o ระดับอ้างอิง
ชายคนหนึ่งยืนอยู่บนตึกสูง 45 เมตร ขว้างลูกเทนนิสออกไปใน
แนวราบด้วยความเร็ว 12 เมตร/วินาที กระทบกับกาแพงแล้ว
กระดอนกลับ จงหาว่าลูกเทนนิสจะตกกระทบพื้นที่จุดห่างจากฐาน
ตึกเท่าไร ถ้าให้หน้าตึกห่างจากกาแพง 20 เมตร
ตัวอย่าง 1545m
𝑢 𝑥 = 12 𝑚/𝑠
ระดับอ้างอิง
ชายคนหนึ่งเตะลูกบอลด้วยความเร็ว 25 เมตร/วินาที ในทิศทามุมเงย
53o จงหาว่าลูกบอลนี้ขึ้นได้สูงสุดเท่าไร และ ใช้เวลานานเท่าไรลูก
บอลจึงตกถึงพื้น (เมื่อ g = 10 เมตร/วินาที2)
ตัวอย่าง 16
53o
ระดับอ้างอิง
ยิงลูกกระสุนออกไปในแนวระดับด้วยความเร็ว 400 เมตร/วินาที เมื่อ
เวลาผ่านไป 3 วินาที จงหา (เมื่อ g = 10 เมตร/วินาที2)
ก) ความเร็วและทิศทางของกระสุน
ข) ระยะกระจัดของลูกกระสุน
ตัวอย่าง 17
𝑢 𝑥 = 400 𝑚/𝑠
ระดับอ้างอิง
ยิงปืนทามุมเงย 37 องศา กับแนวราบด้วยความเร็ว 500 เมตร/วินาที จง
คานวณหา (เมื่อ g = 10 เมตร/วินาที2)
ก) ความเร็วของลูกกระสุน เมื่อเวลาผ่านไป 1 วินาที
ข) เวลาที่ลูกกระสุนอยู่ที่ตาแหน่งสูงสุด
ค) การกระจัดของลูกกระสุน เมื่อตกถึงพื้น
ตัวอย่าง 18
37o
ระดับอ้างอิง
การเคลื่อนที่แบบวงกลม
(Circular Motion)
การเคลื่อนที่ในแนววงกลม หมายถึง การเคลื่อนที่ของวัตถุ ที่มีการ
เปลี่ยนแปลงความเร็วตามทิศทางการเคลื่อนที่ตลอดเวลา ใน
การศึกษาเราส่วยใหญ่จะให้อัตราเร็วของวัตถุจะคงที่ เช่น การโคจร
ของดวงจันทร์รอบโลก เป็นต้น
องค์ประกอบการเคลื่อนที่แบบวงกลม
การเคลื่อนที่แบบวงกลมประกอบไปด้วย
• แรงกระทาจากภายนอก
• การเปลี่ยนแปลงความเร็วตาม
ทิศทาง
• ความเร่งมีทิศเข้าสู่ศูนย์กลาง
• เกิดแรงสู่ศูนย์กลาง
• อัตราเร็วตามแนวสัมผัสคงที่𝑭 𝒄
𝒗
𝑭 𝒄
𝒗
𝑭 𝒄
𝑭 𝒄
𝑭 𝒄
𝑭 𝒄
𝒗
𝒗
𝒗
𝒗
𝜽
𝑹
𝒂 𝒄
การเคลื่อนที่แบบวงกลม และ การเคลื่อนเชิงเส้น
𝒗
𝒗
𝜽
𝑹
𝑹
𝑠
𝜽 𝟎
𝜽 𝟏
• ระยะทาง (s) คือ ระยะทางตาม
เส้นทางของการเคลื่อนที่
หน่วยเป็น เมตร(m)
• มุม (q) คือ มุมที่วัตถุกวดไป
ได้หน่วยเป็นเรเดียน (rad)
𝒔 𝟎, 𝒕 𝟎
𝒔 𝟏, 𝒕 𝟏
สัญลักษณ์ในการคานวณ
การเคลื่อนที่แบบวงกลม
• คาบ (T) คือ เวลาที่ใช้ในการ
เคลื่อนที่ครบ 1 รอบ หรือ
วินาทีต่อรอบ (s)
• ความถี่ (f) คือ จานวนรอบที่
เคลื่อนที่ได้ในหนึ่งหน่วยเวลา
หรือ รอบต่อวินาที (Hz)
𝑭 𝒄
𝒗
𝑭 𝒄
𝒗
𝑭 𝒄
𝑭 𝒄
𝑭 𝒄
𝑭 𝒄
𝒗
𝒗
𝒗
𝒗
𝒇 =
𝟏
𝑻
, 𝑻 =
𝟏
𝒇
𝜽
𝑹
𝒂 𝒄
การเคลื่อนที่แบบวงกลม และ การเคลื่อนเชิงเส้น
𝒗
𝒗
𝜽
𝑹
𝑹
Δ𝑠
𝒔 𝟎, 𝒕 𝟎
𝒔 𝟏, 𝒕 𝟏
𝜽 𝟎
𝜽 𝟏
• อัตราเร็วเชิงเส้น (v) คือ ระยะทางตาม
แนวเส้นรอบวงของวงกลมที่วัตถุ
เคลื่อนที่ได้ในหนึ่งหน่วยเวลา ( m/s)
𝒗 =
𝚫𝒔
𝚫𝒕
==
𝒔 𝟏 − 𝒔 𝟎
𝒕 𝟏 − 𝒕 𝟎
• อัตราเร็วเชิงมุม ( w) คือ คือ มุมที่
จุดศูนย์กลางของวงกลมที่รัศมี
กวาดไปได้ในหนึ่งหน่วยเวลา
(เรเดียน/วินาที หรือ rad/s)
𝝎 =
𝚫𝜽
𝚫𝒕
=
𝜽 𝟏 − 𝜽 𝟎
𝒕 𝟏 − 𝒕 𝟎
สัญลักษณ์ในการคานวณ
การเคลื่อนที่แบบวงกลม
• อัตราเร็ วเชิ ง เส้ น (v) คือ
ระยะทางตามแนวเส้นรอบวง
ของวงกลมที่วัตถุเคลื่อนที่ได้ใน
หนึ่งหน่วยเวลา ( m/s)
𝑭 𝒄
𝒗
𝑭 𝒄
𝒗
𝑭 𝒄
𝑭 𝒄
𝑭 𝒄
𝑭 𝒄
𝒗
𝒗
𝒗
𝒗
𝒗 =
𝟐𝝅𝑹
𝑻
= 𝟐𝝅𝑹𝒇
• อัตราเร็วเชิงมุม ( w ) คือ คือ มุมที่จุด
ศูนย์กลางของวงกลมที่รัศมีกวาดไปได้ใน
หนึ่งหน่วยเวลา (เรเดียน/วินาที หรือ rad/s)
𝝎 =
𝜽
𝑻
=
𝟐𝝅
𝑻
= 𝟐𝝅𝒇 =
𝒗
𝑻
𝜽
𝑹
𝒂 𝒄
สัญลักษณ์ในการคานวณ
การเคลื่อนที่แบบวงกลม
• ความเร่ งเข้ าสู่ ศู นย์ กลาง
(Centripetal Acceleration, ac)
ac คือ ความเร่งเนื่องจากการ
เคลื่อนที่แบบวงกลมมีขนาดคงที่
และมีทิศเข้าสู่ศูนย์กลางเสมอ
𝑭 𝒄
𝒗
𝑭 𝒄
𝒗
𝑭 𝒄
𝑭 𝒄
𝑭 𝒄
𝑭 𝒄
𝒗
𝒗
𝒗
𝒗
𝒂 𝒄 =
𝒗 𝟐
𝑹
𝜽
𝑹
𝒂 𝒄
เมื่อ R= รัศมีการเคลื่อนที่ในแนววงกลม (m)
สัญลักษณ์ในการคานวณ
การเคลื่อนที่แบบวงกลม
• แรงเข้าสู่ศูนย์กลาง (Centripetal
Force, Fc) คือ แรงที่กระทาต่อ
วัตถุในการเคลื่อนที่แบบวงกลม
มิทิศเดียวกับทิศของความเร่ง
𝑭 𝒄
𝒗
𝑭 𝒄
𝒗
𝑭 𝒄
𝑭 𝒄
𝑭 𝒄
𝑭 𝒄
𝒗
𝒗
𝒗
𝒗
𝑭 𝒄 = 𝒎𝒂 𝒄 =
𝒎𝒗 𝟐
𝑹
𝜽
𝑹
𝒂 𝒄
เมื่อ m = มวลวัตถุที่เคลื่อนที่เป็นวงกลม (kg)
กฎแรงดึงดูดระหว่างมวลนิวตัน
กฎแรงดึงดูดระหว่างมวลนิวตัน กล่าวว่า “วัตถุทั้งหลายในเอกภพจะออก
แรงดึงดูดซึ่งกันและกัน โดยขนาดของแรงดึงดูดระหว่างวัตถุคู่หนึ่งๆ จะแปร
ผันตรงกับผลคูณระหว่างมวลวัตถุทั้งสองและจะแปรผกผันกับกาลังสอง
ระยะทางระหว่างวัตถุทั้งสองนั้น”
𝑭 =
𝑮𝒎𝑴
𝑹 𝟐
เมื่อ 𝑭 𝒎 = 𝑭 𝑬
G คือ ค่านิจความโน้มถ่วงสากล มีค่า 6.672 x 10-11 Nm2/kg2
𝑭 𝑬
𝑭 𝒎
𝑴
𝒎 𝑹
หลักการคานวณเรื่องการเคลื่อนที่แบบวงกลมแบบต่าง ๆ
1. เขียนระนาบกลมขณะที่วัตถุกาลังหมุน
2. เขียนแรงที่กระทาต่อวัตถุ แล้วแตกแรงทั้งหมดให้อยู่ในแนวสู่
ศูนย์กลางวงกลม และแนวตั้งฉากกับแนวสู่ศูนย์กลาง
3. ในแนวสู่ศูนย์กลาง หาแรงลัพธ์ที่ทีทิศทางพุ่งเข้าสู่ศูนย์กลาง แรง
นี้จะทาหน้าที่เป็นแรงสู่ศูนย์กลาง
• ในแนวตั้งฉากกับระนาบวงกลมนี้ ถือว่า
สมดุล ∴ 𝑭 ในแนวนี้เท่ากับศูนย์
𝑭 = 𝟎
การเคลื่อนที่วงกลมตามแนวระดับ
o เมื่อระบบของวงกลมวางอยู่ในแนว
ระดับวัตถุผูกเชือก แกว่งเป็น
วงกลมบนโต๊ะระดับผิวเกลี้ยง
• หาความเร็วเชิงมุมได้จาก 𝝎 =
𝜽
𝑻
=
𝟐𝝅
𝑻
= 𝟐𝝅𝒇 =
𝒗
𝑻
• หาความเร่งสู่ศูนย์กลางได้จาก 𝒂 𝒄 =
𝒗 𝟐
𝑹
= 𝝎 𝟐 𝑹
• หาแรงสู่ศูนย์กลางได้จาก
𝒗
𝑭 𝒄 = 𝒎𝒂 𝒄 =
𝒎𝒗 𝟐
𝑹
= 𝒎𝝎 𝟐 𝑹
การเคลื่อนที่เป็นวงกลมในแนวดิ่ง
 การเคลื่อนที่ของวงกลมในแนวดิ่ง
แตกต่างจากแนวระดับ คือ มีค่า g
• แรงตามแนวรัศมี 𝑭 𝒄 = 𝑻 − 𝒎𝒈 cos 𝜽
• แรงตามแนวสัมผัส 𝑭 𝑻 = 𝒎𝒈 sin 𝜽
• จาก 𝑭 𝒄 = 𝒎𝒂 𝒄 ได้ว่า 𝒂 𝒄 =
𝑭 𝒄
𝒎
=
𝑻−𝒎𝒈 cos 𝜽
𝒎
• เมื่อ 𝒂 𝒄 =
𝒗 𝟐
𝑹
ได้ว่า 𝒗 𝟐
𝑹
=
𝑻−𝒎𝒈 cos 𝜽
𝒎
• ดังนั้น ความตึกเชือกคือ
q
𝑚𝑔
𝑇
𝑻 =
𝒎𝒗 𝟐
𝑹
+ 𝒎𝒈 cos 𝜽
𝑹
การเคลื่อนที่บนทางโค้งในแนวราบ
การที่วัตถุหรือรถจะเลี้ยวโค้งต้องมีแรงสู่ศูนย์กลางเสมอ ในขณะที่รถเลี้ยวโค้งแรง
สู่ศูนย์กลางที่กระทาต่อรถก็คือ แรงเสียดทานนั่นเอง โดยแรงเสียดทานมีทิศเข้าสู่ศูนย์กลางใน
ขณะที่รถเลี้ยวโค้งการหาความเร็วที่พอดีทาให้รถเลี้ยวโค้งได้
รถจะเลี้ยวโค้งได้ด้วยความเร็วมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับรัศมี (R) วงกลมของทางโค้ง
และมุม q ที่รถเอียงจากแนวดิ่ง ถ้า R และ q มีค่ามาก รถจะเลี้ยวโค้งได้ด้วยความเร็วสูง
q
𝑓 𝑘 = 𝜇𝑁
𝑁=𝑚𝑔
• 𝜇 = ส.ป.ส. ของแรงเสียดทานระหว่างล้อกับถนน
o เมื่อ 𝐹 𝑐 = 𝑓 𝑘 =
𝑚𝑣2
𝑅
o ดังนั้น 𝑡𝑎𝑛 𝜃 =
𝑓 𝑘
𝑁
= 𝜇 =
𝑚𝑣2
𝑅
𝑚𝑔
o ได้ว่า 𝒕𝒂𝒏 𝜽 = 𝝁 =
𝒗 𝟐
𝑹𝒈
𝒗 = 𝒕𝒂𝒏 𝜽 𝑹𝒈 = 𝝁𝑹𝒈
การเคลื่อนที่เป็นทางโค้งบนถนนลื่นเอียงทามุม q กับแนวระดับ
ในกรณีทางโค้งนิยมยกขอบด้านนอกให้สูงกว่าด้านใน เพื่อช่วยทาให้เกิดแรงสู่
ศูนย์กลางโดยไม่ต้องอาศัยแรงเสียดทาน
q
𝑵𝐜𝐨𝐬𝜽
𝑵 𝐬𝐢𝐧 𝜽
𝒎𝒈
 อัตราเร็วพอดีกับมุมที่ยกขึ้น หาได้ดังนี้
o เมื่อ 𝐹 𝑐 = 𝑁 sin 𝜃 =
𝑚𝑣2
𝑅
o และ 𝑁 cos 𝜃 = 𝑚𝑔
o ได้ว่า 𝒕𝒂𝒏 𝜽 =
𝒗 𝟐
𝑹𝒈
o อัตราเร็วพอดีกับมุมที่ยกขึ้น คือ
q
q = มุมที่ผิวถนนกระทาต่อพื้นราบ
v = อัตราเร็วที่พอดีกับมุมที่ยกผิวถนน
R = เป็นรัศมีความโค้ง
g = ความเร่งเนื่องจากความโน้มถ่วง
𝒗 = 𝒕𝒂𝒏 𝜽 𝑹𝒈
การเคลื่อนที่วงกลมของดาวเทียม
• แรงสู่ศูนย์กลาง 𝑭 𝒄 = 𝒎𝒈 𝒉ดังนั้น 𝒎𝒈 𝒉 =
𝒎𝒗 𝟐
𝑹
หรือ 𝒎𝒈 𝒉 =
𝑮𝒎𝑴
𝑹 𝟐
• ค่าแรงโน้มถ่วงกระทากับดาวเทียม 𝒈 𝒉 =
𝑮𝑴
𝑹 𝟐 เมื่อ 𝑹 = 𝑹 𝑬 + 𝒉
• ความเร็วของดาวเทียม 𝒈 𝒉 =
𝒗 𝟐
𝑹

𝒗
𝑹
 น้าหนักดาวเทียมลงสู่โลก เป็นแรงสู่ศูนย์กลาง
𝒎𝒈 𝒉
𝒎 𝑴
𝑹 𝑬
• G คือ ค่านิจความโน้มถ่วงสากล มีค่า 6.672 x 10-11 Nm2/kg2𝒗 = 𝒈 𝒉 𝑹 = 𝒈 𝒉 𝑹 𝑬 + 𝒉 =
𝑮𝑴
𝑹 𝑬 + 𝒉
จงหาความเร่งเข้าสู่ศูนย์กลางของวัตถุที่เคลื่อนที่เป็นรูปวงกลมรัศมี
8 เมตร ด้วยอัตราเร็ว 20 เมตร/วินาที และหากมวลที่เคลื่อนที่มีขนาด
5 กิโลกรัม จงหาแรงเข้าสู่ศูนย์กลาง
ตัวอย่าง 19 𝑣 = 20 𝑚/𝑠
𝑅 = 8 𝑚
วัตถุมวล 2 กิโลกรัม ผูกเชือกยาว 1 เมตร แล้วแกว่งให้เคลื่อนที่เป็น
วงกลมตามแนวระดับด้วยความถี่คงที่ 2 รอบต่อวินาที จงหา
ก) ความเร่งสู่ศูนย์กลาง
ข) แรงตึงในเส้นเชือก
ตัวอย่าง 20
โลกหมุนรอบตัวเองครบ 1 รอบ ใช้เวลา 24 ชั่วโมง และรัศมีของโลก
เท่ากับ 6.37x106 เมตร จงคานวณหา
ก) อัตราเร็วเชิงมุมของวัตถุบนผิวโลก
ข) อัตราเร็วเชิงเส้น และขนาดของความเร่งสู่ศูนย์กลางของวัตถุ
ที่อยู่บนเส้นศูนย์สูตรของโลก
ตัวอย่าง 21
เส้นเชือกเบายาว 1 เมตร ปลายข้างหนึ่งติดวัตถุมวล 0.5 กิโลกรัม อีก
ปลายหนึ่งตรึงแน่นแกว่งให้วัตถุเคลื่อนที่เป็นวงกลมในแนวราบรัศมี
30 เซนติเมตร และ เส้นเชือกทามุม 37o กับแนวดิ่ง จงคานวณหา
ก) อัตราเร็วเชิงเส้น และ อัตราเร็วเชิงมุม
ข) แรงตึงในเส้นเชือก
ค) คาบของการแกว่ง
ตัวอย่าง 22
0.5
kg
37o
30 cm
การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิก
(Simple Harmonic Motion, SHM)
การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิก หมายถึง การที่
วัตถุเคลื่อนที่กลับไปมาซ้ารอยเดิม มักจะใช้
สัญญลักษณ์ว่า SHM. ตัวอย่างของการเคลื่อนที่แบบ
นี้ได้แก่ การเคลื่อนที่ของวัตถุที่ถูกผูกติดไว้กับสปริง
ในแนวราบ การแกว่งของชิงช้า การแกว่งของลูกตุ้ม
นาฬิกา เป็นต้น
สมการของการเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิก
จากภาพจะเห็นว่าเมื่อวัตถุสีเหลืองเคลื่อนที่เป็นวงกลม เงาของวัตถุบนฉากจะ
เคลื่อนที่เป็นเส้นตรงกลับไปกลับมา เรียกการเคลื่อนที่แบบซ้ารอยเดิมนี้ว่า การ
เคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิค (Simple Harmonic Motion) หรือการเคลื่อนที่
แบบ S.H.M
q
ฉาก
เงาของบอล
𝑹
𝒀
การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิก
q
ฉาก
เงาของบอล
จะได้การกระจัดในแนวแกน Y ดังนี้
𝑹
𝒀
อัตราเชิงเส้นมุม คือ 𝝎 =
𝜽
𝒕
𝒀 = 𝑹 sin 𝜔𝑡
การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิก
𝑌 𝑚𝑎𝑥 = 𝑅 หรือ 𝑌 𝑚𝑎𝑥 = 𝐴 (แอมปลิจูด)
เมื่อนา 𝑌 = 𝑅 𝑠𝑖𝑛 𝜔𝑡 ไปเขียนกราฟการกระจัด-เวลา ของการเคลื่อนที่แบบซิม
เปิลฮาร์โมนิค จะได้กราฟดังนี้
จากสมการ 𝑌 = 𝑅 𝑠𝑖𝑛 𝜔𝑡 เมื่อ 𝑠𝑖𝑛 𝜔𝑡 = 𝑠𝑖𝑛 90° = 1 ค่าของการกระจัดของ
การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิคจะมีค่ามากที่สุด นั่นคือ
-1.5
-1
-0.5
0
0.5
1
1.5
0 2 4 6 8 10 12 14
การกระจัด
เวลา
ซิมเปิลฮาร์โมนิคในสปริง
การที่วัตถุเคลื่อนที่กลับไปมาซ้ารอยเดิม มักจะใช้สัญลักษณ์ว่า SHM.
ตาแหน่งสมดุล
ตาแหน่งสมดุล −𝒚
+𝒚
−𝒙
+𝒙
2
2
2
2
F ma
kx m x
k m
T
m
T
k
w




 
  
 

2 k
T m

w  
ซิมเปิลฮาร์โมนิคในสปริง
ตาแหน่งสมดุล
−𝒙
+𝒙
สปริงเบาตัวหนึ่งมีค่านิจ 100 นิวตัน/เมตร ผูกติดกับมวล 1 กิโลกรัม
ซึ่งวางอยู่บนพื้น ราบเกลี้ยง เมื่อดึงสปริงออกไป 30 เซนติเมตร แล้ว
ปล่อยมือ มวลก้อนนี้จะมีอัตราเร่งสูงสุดเท่าใด
ตัวอย่าง 23
รถทดลองมวล 500 กรัม ติดอยู่กับปลายสปริงดังรูป เมื่อดึงด้วยแรง 5
นิวตัน ในทิศขนานกับพื้น จะทาให้สปริงยืดออก 10 เซนติเมตร เมื่อ
ปล่อยรถจะเคลื่อนที่กลับไปกลับมาบนพื้นเกลี้ยงแบบซิมเปิลฮาร์โมนิก
ด้วยคาบเท่าไร(ค่าคงที่สปริงเท่ากับ 10 N/m)
ตัวอย่าง 24
แขวนมวล 2 กิโลกรัม กับสปริง แล้วปล่อยให้สั่นขึ้นลง วัดคาบของ
การสั่นได้1 วินาที ถ้าเอามวล 2 กิโลกรัม ออกสปริงจะสั้นกว่าตอนที่
แขวนมวลนี้อยู่กี่เมตร
ตัวอย่าง 25
การเคลื่อนที่แบบลูกตุ้มนาฬิกา
จากรูป เป็นการเคลื่อนที่แบบลูกตุ้มนาฬิกา (simple
pendulum) ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์มอนิ
กอย่างง่าย อีกลักษณะหนึ่งโดยการนาวัตถุมวล m
ผูกเชือกยาว l เมื่อวัตถุแกว่งเป็นมุมแคบๆ (q มีค่า
น้อย ๆ) ซึ่งถือได้ว่าแรงลัพธ์ที่ทาให้วัตถุเคลื่อนที่มี
ทิศขนานกับเส้นทางการเคลื่อนที่ของวัตถุ และส่วน
โค้งของวงกลมจากตาแหน่งสมดุลถึงตาแหน่งต่างๆ
ของวัตถุเป็นเส้นตรง
q
𝑚𝑔
𝑇
𝒍
𝒙
การเคลื่อนที่แบบลูกตุ้มนาฬิกา
o จากกฎข้อสองของนิวตัน 𝑭 = 𝒎𝒂
𝑚𝑎 = −𝑚𝑔 sin 𝜃  𝑎 = −𝑔 sin 𝜃
o เมื่อ q มีค่าน้อย ๆ 𝜽 =
𝒙
𝒍
ดังนั้น
𝑎 = −𝑔
𝒙
𝒍
o จาก 𝑎 = −ω2
𝑥 ได้ว่า
ω2 𝑥 = 𝑔
𝒙
𝒍
 ω2 =
𝒈
𝒍
q
𝑚𝑔
𝑇
𝒍
𝒙
∴ 𝜔 =
𝒈
𝒍
, 𝑇 = 2𝜋
𝒍
𝒈
และ 𝑓 =
1
2𝜋
𝒈
𝒍
ลูกตุ้มแขวนด้วยเชือกยาว 0.4 เมตร แกว่งไปมาด้วยแอมพลิจูด 0.1
เมตร จงหา ความเร็วขณะเคลื่อนผ่านจุดสมดุล
ตัวอย่าง 26
q
𝑥 = 0.1 𝑚
ลูกตุ้มแขวนด้วยเชือกยาว 100 เซนติเมตร เมื่อจับลูกตุ้มให้เบนออกมา
จากตาแหน่ง สมดุลเป็นระยะ 5 เซนติเมตร แล้วปล่อยให้แกว่งอย่าง
อิสระความเร็วสูงสุดในการแกว่ง จะมีค่าเท่ากับกี่ เซนติเมตร / วินาที
ตัวอย่าง 27

บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ