เรียบเรียงโดย:
ดร.สุภาวดี หิรัญพงศสิน
ภาควิชาคณิตศาสตร สถิติ และคอมพิวเตอร
คณะวิทยาศาสตร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
เอกสารประกอบการอบรม
การวิเคราะหขอมูลและการนําเสนอผลของการวิจัย
โดยใชโปรแกรม MICROSOFT EXCEL 2013
การประชุมเชิงปฏิบัติการ “เขียนบทความวิจัยโครงการเพาะพันธุปญญา สําหรับครู”
3 เมษายน 2559
หองประชุมศรีเมืองใหม ชั้น 3 อาคารสํานักงานอธิการบดี (หลังใหม)
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
สารบัญ
บทนํา 2
การวิเคราะหขอมูลเบื้องตนโดยใชโปรแกรม Microsoft Excel 2013 2
ขั้นตอนการเตรียมการเพื่อวิเคราะหขอมูล 2
ตัวอยางการวิเคราะหขอมูล 5
ขั้นตอนการวิเคราะหขอมูล 8
การนําเสนอผลของการวิจัย 15
การสรางกราฟ (Chart) ใน Microsoft Excel 2013 18
สิ่งที่ตองพิจารณากอนการสรางกราฟ 18
ขั้นตอนในการสรางกราฟ 18
การเปลี่ยนชนิด (รูปแบบ) กราฟ 21
การสรางกราฟผสมแบบ 2 แกน 22
การลบกราฟ 28
1 | P a g e
การวิเคราะหขอมูลและการนําเสนอผลของการวิจัย
โดยใชโปรแกรม Microsoft Excel 2013
บทนํา
การวิจัยทางการศึกษา หมายถึง กระบวนการ (Process) ในการแสวงหาความรูที่จะนําไปใชใน
การพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา สําหรับกระบวนการดังกลาวนี้เปนกระบวนการวิจัยซึ่งประกอบดวย
ขั้นตอนพื้นฐาน 5 ขั้นตอน ไดแก 1) การกําหนดปญหา 2) การสรางสมมติฐาน ศึกษาขอมูลและ
รายละเอียดที่เกี่ยวกับปญหา 3) การเก็บรวบรวมขอมูล 4) การวิเคราะหขอมูล และ 5) การสรุปผลขอมูล
เอกสารประกอบการอบรมนี้ จะกลาวถึงขั้นตอนที่สําคัญขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการวิจัย นั่นคือ
การวิเคราะหขอมูล เมื่อผูวิจัยเก็บรวบรวมขอมูลและตรวจสอบความถูกตองของขอมูลแลว จะดําเนินการ
กับขอมูลเหลานั้นดวยโปรแกรมสําเร็จรูปที่ใชสําหรับวิเคราะหขอมูลได โปรแกรมสําเร็จรูปที่นิยมใช
สําหรับการวิเคราะหขอมูลในปจจุบันมีอยูดวยกันหลายโปรแกรม เชน SPSS (Statistical Package for
the Social Sciences) SAS (Statistical Analysis System) และ STATA เปนตน
อยางไรก็ดีแตละโปรแกรมมีจุดเดนที่แตกตางกัน ผูใชสามารถเลือกใชโปรแกรมเหลานี้ตาม
ลักษณะของขอมูลหรือการใชงานของผูใชเอง นอกจากโปรแกรมที่ไดกลาวขางตนแลว โปรแกรม
Microsoft Excel เปนอีกโปรแกรมหนึ่งที่สามารถนํามาใชในการวิเคราะหขอมูลไดเชนกัน ในที่นี้จะใช
Microsoft Excel 2013 เพื่อเปนเครื่องมือในการวิเคราะหขอมูล ดังจะกลาวในหัวขอถัดไป
การวิเคราะหขอมูลเบื้องตนโดยใชโปรแกรม Microsoft Excel 2013
การวิเคราะหขอมูลหรือคาทางสถิติเบื้องตน ดวยโปรแกรม Microsoft Excel 2013 สามารถ
ศึกษารายละเอียดไดในหัวขอตอไปนี้
ขั้นตอนการเตรียมการเพื่อวิเคราะหขอมูล
การวิเคราะหขอมูลเบื้องตนโดยใชโปรแกรม Microsoft Excel 2013 ผูใชจําเปนตองใชเครื่องมือ
(Tool) ที่ชื่อวา Data Analysis หากเครื่องที่ผูใชใชในการวิเคราะหขอมูลไมมีเครื่องมือดังกลาว ผูใชตอง
ทําการติดตั้งเครื่องมือ Data Analysis นี้กอน โดยมีขั้นตอนการติดตั้งดังตอไปนี้
1. เปดโปรแกรม Microsoft Excel 2013
2. คลิกที่เมนูไฟล (File) คลิกที่เมนู Options (หรือ เมนูตัวเลือก) จะปรากฏดังรูปที่ 1.
2 | P a g e
รูปที่ 1. แถบเมนู ภายใตเมนู Options
3. คลิกที่เมนู Add-Ins จะปรากฏดังรูปที่ 2. จากนั้นคลิกเลือกที่ Analysis ToolPak ภายใต
หัวขอ Inactive Application Add-ins และคลิกเลือก Excel Add-ins ภายใตหัวขอ
Manage ที่สวนดานลางของกรอบโตตอบ
รูปที่ 2. เครื่องมือ Add-ins ตางๆ ของ Microsoft Office ภายใตเมนู Add-Ins
3 | P a g e
4. คลิกปุม Go จะปรากฏดังรูปที่ 3.
รูปที่ 3. เครื่องมือ Add-ins ภายใต Analysis ToolPak
5. คลิกเลือกเครื่องมือตามรูปที่ 4. จากนั้นคลิกปุม OK
รูปที่ 4. เลือกเครื่องมือ Add-ins ภายใต Analysis ToolPak
6. เมื่อเครื่องมือ Data Analysis ถูกติดตั้งเรียบรอยแลวจะปรากฏที่ริบบอนในแถบขอมูล (Data)
ดังรูปที่ 5.
รูปที่ 5. Data Analysis ถูกติดตั้งเรียบรอยแลว โดยปรากฏที่ริบบอนในแถบขอมูล (Data)
4 | P a g e
7. เมื่อคลิกเลือกที่เครื่องมือ Data Analysis จะปรากฏกรอบโตตอบเพื่อใหผูใชเลือกเครื่องมือ
วิเคราะหขอมูลภายใตหัวขอ Analysis Tools ดังแสดงในรูปที่ 6.
รูปที่ 6. กรอบโตตอบเพื่อเลือกเครื่องมือวิเคราะหขอมูล (Analysis Tools)
ตัวอยางการวิเคราะหขอมูล
ขอมูล (Data) จากแบบสอบถาม
ในการวิเคราะหขอมูลนั้นจําเปนตองมีการเก็บขอมูล ซึ่งอาจเก็บไดจากแบบสอบถามที่สรางขึ้นมา
โดยการเก็บรวบรวมขอมูลจากแบบสอบถามตามขนาดของตัวอยางที่เหมาะสม แลวสามารถใชโปรแกรม
Microsoft Excel ชวยในการวิเคราะหขอมูลได
วิธีดําเนินการ
1. กําหนดหัวขอแบบสอบถาม (ตัวอยางในที่นี้ คือ แบบสอบถามความพึงพอใจในการนําเสนองาน)
2. ออกแบบแบบสอบถาม โดยใหกําหนดประเด็นที่ตองการประเมินใหสอดคลองกับวัตถุประสงค
ของการประเมิน และกลุมเปาหมาย (อาจกําหนดเปนดานหลักๆ แลวจึงกําหนดเปนประเด็น
ยอยๆ ภายใตดานนั้นๆ)
3. เก็บขอมูลจากกลุมเปาหมาย โดยใหกลุมเปาหมายตอบแบบสอบถามตามที่ไดออกแบบไว ตาม
ความเปนจริง
4. นําขอมูลที่ไดจากการเก็บขอมูลมาวิเคราะหเพื่อคาระดับความพึงพอใจ โดยการใชโปรแกรม
Excel
5 | P a g e
ตัวอยางแบบสอบถาม
6 | P a g e
การแปรขอมูล
เมื่อผูประเมินไดทําการประเมินเรียบรอยแลว ขั้นตอนตอไปเปนการนําขอมูลประเมินที่ไดมา
วิเคราะหเพื่อนําเสนอผลการวิจัย อยางไรก็ดีเพื่อใหงายตอการประมวลผลในขั้นตอนของการวิเคราะห
ขอมูล ผูวิจัยจําเปนตองแปรขอมูลที่ไดจากแบบสอบถามใหเปนตัวเลข แลวจึงกรอกขอมูลลงในฐานขอมูล
Excel การแปรขอมูลในแตละสวนของแบบสอบถาม สามารถทําไดดังนี้
ตอนที่ 1 สถานภาพสวนตัวของผูตอบแบบสอบถาม
เปนขอมูลที่เปนเชิงคุณภาพ ตองแปลงใหเปนตัวเลข ซึ่งเปนการกําหนดคําอธิบายใหกับคาตัวแปร
โดยกําหนดดังนี้
• เพศ ชาย = 1 หญิง = 2
• อายุ ต่ํากวา 21 ป = 1 21-30 ป = 2 31- 40 ป = 3 41- 50 ป = 4 และมากกวา
50 ป = 5
• สถานภาพ อาจารย = 1 นักเรียน/นักศึกษา = 2 เจาหนาที่ = 3 บุคคลภายนอก =
4 และอื่นๆ = 5
• ระดับการศึกษา ประถมศึกษา = 1 มัธยมศึกษา = 2 อนุปริญญาหรือเทียบเทา = 3
ปริญญาตรีหรือเทียบเทา = 4 สูงกวาปริญญาตรี = 5
ตอนที่ 2 ความพึงพอใจในการนําเสนอ
เปนขอมูลที่เปนเชิงคุณภาพ ตองแปลงใหเปนตัวเลข โดยกําหนดให 1=นอยที่สุด 2=นอย 3=
ปานกลาง 4=มาก 5=มากที่สุด
ตอนที่ 3 ขอเสนอแนะและความคิดเห็นอื่นๆ
เสนอเปนความเรียง หรือเสนอเรียงตามลําดับความถี่ของขอมูล (ไมตองนําไปกรอกใน Excel)
การกรอกขอมูลลงในฐานขอมูล Excel
สมมติใหกลุมตัวอยาง/ประชากรที่ตอบแบบสอบถามมีจํานวน 20 คน จะไดแบบสอบถามจํานวน
20 ฉบับ เมื่อบันทึกขอมูลลงใน Excel แลว แสดงไดดังรูปที่ 7.
รูปที่ 7. การกรอกขอมูลจากแบบสอบถามลงในฐานขอมูล Excel
7 | P a g e
ขั้นตอนการวิเคราะหขอมูล
จากตัวอยางแบบสอบถามขางตนที่ประกอบดวย 3 สวน ไดแก สวนที่ 1 สถานภาพสวนตัวของ
ผูตอบแบบสอบถาม สวนที่ 2 ความพึงพอใจในการนําเสนอ และสวนที่ 3 ขอเสนอแนะและความคิดเห็น
อื่นๆ โดยแตละสวนจะมีวัตถุประสงคในการประเมินที่ตางกัน นั่นคือ
สวนที่ 1 ประเมินเพื่อใหทราบวากลุมตัวอยาง/ประชากร (ผูตอบแบบสอบถาม) มีขอมูลพื้นฐาน
เปนอยางไร แสดงใหเห็นภูมิหลังของผูประเมิน
สวนที่ 2 ประเมินเพื่อใหทราบวาระดับความพึงพอใจในการนําเสนอ อยูในระดับใด เชน ดีมาก ดี
หรือปานกลาง เปนตน แสดงใหเห็นความเชื่อมั่นของผูประเมินที่มีตอกิจกรรมนั้น
สวนที่ 3 ประเมินเพื่อใหทราบวากิจกรรมนั้นสวนเพิ่มเติมใดๆ ที่ไดรับการยอมรับ (ประเด็นที่ไมได
มีในแบบสอบถาม) สวนใดตองปรับปรุง หรือสวนใดที่เปนคําแนะนําที่สามารถนําไปพัฒนาตอเพื่อใหเกิด
ประโยชนตอกิจกรรมอื่นได
ดังนั้น การวิเคราะหขอมูลในแตละสวนจะแตกตางกัน เพื่อใหงายตอการวิเคราะหขอมูล
เครื่องมือ หรือวิธีการวิเคราะหในแตละสวน สามารถทําไดดังนี้
สวนที่ 1 ผูวิจัยสามารถเลือกใชเครื่องมือ Data Analysis เทคนิค Histogram ได
สวนที่ 2 ผูวิจัยสามารถเลือกใชเครื่องมือ Data Analysis เทคนิค Descriptive Statistics ได
สวนที่ 3 ผูวิจัยสามารถสรุปประเด็นที่เดนชัดแลวนํามาเขียนเปนความเรียงได (อาจไมตองใช
โปรแกรม Excel)
การวิเคราะหขอมูล : สวนที่ 1 สถานภาพสวนตัวของผูตอบแบบสอบถาม
ในสวนนี้ ตัวอยางขอมูลที่ใชในการวิเคราะห คือ เพศ ผูวิจัยสามารถเลือกวิเคราะหขอมูลอื่นๆ
เชน อายุ ระดับการศึกษา หรือขอมูลพื้นฐานอื่นในแบบสอบถามเพิ่มเติมไดในภายหลัง โดยใชเครื่องมือ
Data Analysis
ขั้นตอนการวิเคราะหขอมูล โดยใชเทคนิค Histogram มีดังตอไปนี้
1. ที่แถบเครื่องมือ DATA คลิกเลือกที่เครื่องมือ Data Analysis จะปรากฏกรอบโตตอบเพื่อ
เลือกเครื่องมือวิเคราะหขอมูล (Analysis Tools) จากนั้นเลือกเทคนิค Histogram ซึ่งใชหา
คาความถี่ของขอมูล ดังแสดงในรูปที่ 8.
รูปที่ 8. ทําการเลือกเทคนิค Histogram
8 | P a g e
2. กดปุม OK จะปรากฏกรอบโตตอบดังรูปที่ 9.
รูปที่ 9. กรอบโตตอบ Histogram
3. ที่กรอบ Input ใหกําหนดชวงของขอมูลที่ตองการวิเคราะหที่ Input Range ในที่นี้ใหเลือก
ชวงของขอมูล “เพศ” ($B$2:$B$21) และที่ Bin Range (ชวงของประเภทขอมูลทั้งหมด) ให
เลือกชวง $R$5:$S$5 คลิกเลือกที่ Labels และที่กรอบ Output options ใหกําหนด
ตําแหนงเซลลที่ตองการใสคาผลลัพธที่ Output Range ($Q$11) คลิกเลือกที่ Cumulative
Percentage และคลิกเลือกที่ Chart Output ดังรูปที่ 10.
รูปที่ 10. กําหนดคาตางๆ ในกรอบโตตอบ Histogram เพื่อวิเคราะหขอมูล
Input Range ของเพศ
Bin Range ของเพศ มี 2 ประเภท
9 | P a g e
4. กดปุม OK จะไดผลลัพธดังรูปที่ 11.
รูปที่ 11. ผลลัพธที่ไดจากการใชเทคนิค Histogram
จากรูปที่ 11. ที่คอลัมน Bin หมายถึงประเภทของเพศ โดยหมายเลข 1 แทนเพศชาย หมายเลข
2 แทนเพศหญิง (ดูจากแบบสอบถาม) และ More หมายถึงเพศอื่นๆ คอลัมน Frequency คือความถี่หรือ
จํานวนคนที่แบงตามเพศ และคอลัมน Cumulative หมายถึงเปอรเซนตหรือรอยละสะสมของจํานวนคน
ที่แบงตามเพศ นอกจากนี้กราฟผลลัพธ Histogram จะถูกแสดงตามขอมูลของคอลัมนทั้ง 3 ขางตนดวย
ผูวิจัยสามารถเขียนสรุปผลการวิเคราะหขอมูลไดดังนี้ ผูตอบแบบสอบถาม จํานวน 20 คน เปน
ชาย จํานวน 11 คน คิดเปนรอยละ 55 และเปนหญิง จํานวน 9 คน คิดเปนรอยละ 45
การวิเคราะหขอมูล : สวนที่ 2 ความพึงพอใจในการนําเสนอ
ผูวิจัยสามารถหาคาทางสถิติเชิงพรรณนา ซึ่งใชอธิบายคุณลักษณะของสิ่งที่ตองการศึกษากลุมใด
กลุมหนึ่งเทานั้น และไมสามารถใชอางอิงไปยังกลุมขอมูลอื่นๆ ได เชน คาเฉลี่ย รอยละ และคาเบี่ยงเบน
มาตรฐาน เปนตน ไดโดยใชเทคนิค Descriptive Statistics
ขั้นตอนการวิเคราะหขอมูล โดยใชเทคนิค Descriptive Statistics มีดังตอไปนี้
1. ที่แถบเครื่องมือ DATA คลิกเลือกที่เครื่องมือ Data Analysis จะปรากฏกรอบโตตอบเพื่อ
เลือกเครื่องมือวิเคราะหขอมูล (Analysis Tools) จากนั้นเลือกเทคนิค Descriptive
Statistics ดังแสดงในรูปที่ 12.
รูปที่ 12. ทําการเลือกเทคนิค Descriptive Statistics
10 | P a g e
2. กดปุม OK จะปรากฏกรอบโตตอบดังรูปที่ 13.
รูปที่ 13. กรอบโตตอบ Descriptive Statistics
3. ที่กรอบ Input ใหกําหนดชวงของขอมูลที่ตองการวิเคราะห ในที่นี้เลือกชวงของขอมูลความ
พึงพอใจดานเนื้อหา ($F$1:$J$21) ที่ Grouped By คลิกเลือกที่ Columns และคลิกเลือกที่
Labels in first row และที่กรอบ Output options สามารถเลือกใหผลลัพธไปแสดงตามที่
กําหนดได ไดแก ที่แผนงานเดิมใหกําหนดตําแหนงเซลลที่ตองการใสคาผลลัพธที่ Output
Range หรือที่แผนงานใหม (New Worksheet Ply) หรือที่สมุดงานใหม (New Workbook)
และคลิกเลือกที่ Summary statistics ดังรูปที่ 14.
Input Range ด้านเนื้อหา
11 | P a g e
รูปที่ 14. กําหนดคาตางๆ ในกรอบโตตอบ Descriptive Statistics เพื่อวิเคราะหขอมูล
4. กดปุม OK จะไดผลลัพธดังรูปที่ 15.
รูปที่ 15. ผลลัพธที่ไดจากการใชเทคนิค Descriptive Statistics
จากรูปที่ 15. แสดงคาทางสถิติเชิงพรรณนาของกลุมขอมูลดานเนื้อหาทั้ง 5 ขอ โดยที่:
Mean: คามัชฌิมเลขคณิต (Arithmetic mean) คือคาเฉลี่ยของขอมูลทั้งหมด
Standard Error: แสดงลักษณะการกระจายตัวของขอมูล คือยิ่งใกลคา 0 (ศูนย) แสดงวากลุม
ตัวอยางมีการกระจายตัวใกลกับคาเฉลี่ยของประชากร
Median: คามัธยฐาน คือคาของขอมูลที่จุดกึ่งกลางของการกระจายของขอมูลที่มีการเรียงลําดับ
แลวจากคานอยไปหาคามาก โดย 50% ของขอมูลมีคาสูงกวาคามัธยฐาน และ 50% มีคาต่ํากวา
คามัธยฐาน และมักใชในกรณีที่ การกระจายของขอมูลมีลักษณะไมเทากันทั้งสองขาง
(Asymmetry) หรือมีลักษณะเบไปทางซายหรือทางขวา
Mode: คาฐานนิยม คือคาของขอมูลที่มีความถี่ (ซ้ํากัน) มากที่สุดในขอมูลของชุดนั้น ๆ ซึ่งอาจมี
มากกวาหนึ่งคา (ผลลัพธจะแสดงคาแรกที่เจอ) หรือไมมีเลยก็ได (ผลลัพธจะแสดง #N/A)
Standard Deviation: สวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปนการวัดการกระจายของขอมูลวาจะ
เบี่ยงเบนไปจากคาเฉลี่ยมากนอยเทาใด
Sample Variance: คาความแปรปรวน เพื่อสะดวกในการคํานวณและหมดปญหาเกี่ยวกับ
เครื่องหมายจึงยกกําลังสองของคาเบี่ยงเบนของคาเฉลี่ย
12 | P a g e
Kurtosis: เปนการวัดลักษณะความโดงของขอมูล การพิจารณาความโดงพิจารณาเครื่องหมาย
ดังนี้
Kurtosis = 0 แสดงวาความโดงปกติ
Kurtosis = - แสดงวาความโดงต่ํากวาปกติ
Kurtosis = + แสดงวามีความโดงสูงกวาปกติ
Skewness: เปนการวัดการกระจายของขอมูลในลักษณะทิศทางของขอมูลวามีความเบไปใน
ทิศทางใด
Range: พิสัย เปนคาความแตกตางระหวางคาสูงสุดและคาต่ําสุด (พิสัย=คาสูงสุด-คาต่ําสุด) ของ
ขอมูลชุดหนึ่ง ๆ การวัดการกระจายของขอมูลโดยใชพิสัยนี้ เปนคาที่แสดงการกระจายอยางคราว
ๆ ไมใชการวัดที่ละเอียดและเชื่อถือไดมากนัก เพราะเปนคาที่ไดมาจากขอมูลเพียง 2 คาเทานั้น
นิยมบอกคา สูงสุดและต่ําสุดแทน เพื่อใหสามารถบอกไดวา การกระจายขอมูลเปนอยางไร มักถูก
นําเสนอคูกับคามัธยฐาน
Minimum: คาต่ําสุดของขอมูลชุดนั้น
Maximum: คาสูงสุดของขอมูลชุดนั้น
Sum: ผลรวมของคาทั้งหมดของขอมูลชุดนั้น
Count: จํานวนขอมูลทั้งหมด
อยางไรก็ดีคาทางสถิติที่นิยมใช 2 คาในการสรุปผลการวิจัยเกี่ยวกับระดับความพึงพอใจ ไดแก
Mean และ Standard Deviation
นอกจากการวิเคราะหขอมูลโดย Excel ในสวนที่ 1 ที่ใช เทคนิค Histogram และสวนที่ 2 ที่ใช
เทคนิค Descriptive Statistics ผูวิจัยสามารถใชเครื่องมือใน Excel ที่แถบเครื่องมือ HOME ที่กรอบ
เครื่องมือ Editing ทางขวามือสุด โดยเลือกใชไอคอน เพื่อหาคา Mean และ Standard
Deviation (S.D.) ไดเชนกัน ดังแสดงในรูปที่ 16.
รูปที่ 16. ผลลัพธที่ไดจากการใชเทคนิค Descriptive Statistics
จากรูปที่ 16. คา Mean ใชสูตร AVERAGE(ชวงของขอมูล) และคา S.D. ใชสูตร STDEV.S(ชวง
ของขอมูล) ซึ่งทั้ง 2 สูตร สามารถเลือกใชไดจากไอคอน
13 | P a g e
อยางไรก็ดี มีวิธีการวิเคราะหขอมูลอีกแบบหนึ่งที่นิยมใช นั่นคือการแสดงคารอยละของความพึง
พอใจในแตละดาน ซึ่งวิธีนี้ผูวิจัยจะตองกรอกขอมูลลงในฐานขอมูล Excel โดยการนับจํานวนคนที่
ประเมินในแตละดาน แตละหัวขอที่ประเมิน จากนั้นจึงนํามาคํานวณเปนคารอยละ ดังแสดงในรูปที่ 17.
รูปที่ 17. การวิเคราะหขอมูล โดยใชคารอยละ
ขอมูล (Data) จากการทดลอง
นอกจากขอมูลที่ไดจากแบบสอบถามแลว มีขอมูลที่ไดจากการทดลองที่ผูวิจัยสามารถใช
โปรแกรม Excel ชวยในการวิเคราะหขอมูลเพื่อสรุปผลการวิจัยได ตัวอยางขอมูลแสดงในรูปที่ 18.
รูปที่ 18. การกรอกขอมูลจากการทดลองลงในฐานขอมูล Excel
การวิเคราะหขอมูล
สําหรับขอมูลที่ไดจากการทดลองนี้ ผูวิจัยสามารถเลือกใชเครื่องมือไดดังนี้
1. เครื่องมือ Data Analysis เทคนิค Descriptive Statistics
2. แถบเครื่องมือ HOME ที่กรอบเครื่องมือ Editing
นับจํานวนคนที่
ประเมินในแต่ละด้าน
คํานวณค่าร้อยละ
ในแต่ละด้าน
14 | P a g e
การนําเสนอผลของการวิจัย
ขั้นตอนตอจากการวิเคราะหขอมูล คือการนําเสนอผลของการวิเคราะหขอมูล หรือผลของการ
วิจัยวา ผูวิจัยพบหรือไดขอสรุปใดจากการวิจัย ในสวนนี้จะอธิบายวิธีการนําเสนอผลของการวิจัย ทั้งจาก
แบบสอบถามและการทดลอง ผูวิจัยสามารถศึกษาไดจากหัวขอตอไปนี้
ตัวอยางการนําเสนอผลของการวิจัยจากแบบสอบถาม
การวิเคราะหขอมูลจากแบบสอบถามขางตน สามารถนําเสนอผลของการวิจัย ไดดังนี้
แบบที่ 1 นําเสนอดวยคาเฉลี่ยและคาสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แสดงดังรูปที่ 19.
รูปที่ 19. การนําเสนอผลของการวิจัยจากแบบสอบถาม แบบที่ 1
15 | P a g e
จากรูปที่ 19. สามารถเขียนสรุปผลการวิจัยไดวา ความพึงพอใจเฉลี่ยในการนําเสนอผลงาน
โดยรวมของผูตอบแบบสอบถามอยูในระดับความพึงพอใจมาก มีคาเทากับ 4.44 (S.D. = 0.50) โดยความ
พึงพอใจเฉลี่ยทั้งดานเนื้อหาและดานการนําเสนออยูในระดับความพึงพอใจมาก มีคาเทากับ 4.45 (S.D. =
0.49) และ 4.42 (S.D. = 0.52) ตามลําดับ
แบบที่ 2 นําเสนอดวยคารอยละ แสดงดังรูปที่ 20.
รูปที่ 20. การนําเสนอผลของการวิจัยจากแบบสอบถาม แบบที่ 2
มากที่สุด มาก ปานกลาง นอย นอยที่สุด
เนื้อหา 60 26 13 1 - 4.45
การนําเสนอ 56 30 14 - - 4.42
4.44
88.70
ดานที่ประเมิน
ระดับความพึงพอใจ (รอยละ)
ระดับเฉลี่ย
ระดับเฉลี่ย
เฉลี่ยรอยละ
16 | P a g e
จากรูปที่ 20. สามารถเขียนสรุปผลการวิจัยไดวา ความพึงพอใจเฉลี่ยในการนําเสนอผลงาน
โดยรวมของผูตอบแบบสอบถามอยูในระดับความพึงพอใจมาก มีคาเทากับ 4.44 คิดเปนรอยละ 88.70
โดยความพึงพอใจเฉลี่ยทั้งดานเนื้อหาและดานการนําเสนออยูในระดับความพึงพอใจมาก มีคาเทากับ
4.45 และ 4.42 ตามลําดับ
ตัวอยางการนําเสนอผลของการวิจัยจากการทดลอง
การวิเคราะหขอมูลจากการทดลองขางตน สามารถนําเสนอผลของการวิจัยในรูปแบบกราฟได ดัง
แสดงในรูปที่ 21. และรูปที่ 22.
รูปที่ 21. การนําเสนอผลของการวิจัยจากการทดลองดวยกราฟ แบบที่ 1
จากรูปที่ 21. จะสังเกตไดวา แกน X คือวิธีดําขาว และแกน Y คือจํานวนตนขาวที่แตกกอ โดย
กราฟแทงแทนลําดับที่ของกอขาวตั้งแต กอที่ 1 ถึง กอที่ 4 โดยมีกราฟเสนแทนคาเฉลี่ยของจํานวนตน
ขาวที่แตกกอ
รูปที่ 22. การนําเสนอผลของการวิจัยจากการทดลองดวยกราฟ แบบที่ 2
จากรูปที่ 22. จะสังเกตไดวา แกน X คือลําดับที่ของกอขาวตั้งแตกอที่ 1 ถึง กอที่ 4 และคาเฉลี่ย
และแกน Y คือจํานวนตนขาวที่แตกกอ โดยกราฟแทงแทนวิธีดําขาว 3 วิธี ไดแก ดําถี่ นาเคมี ดําหลายตน
ดําหาง นาอินทรีย ดําหลายตน และดําหาง นาอินทรีย ดําตนเดียว
17 | P a g e
การสรางกราฟ (Chart) ใน Microsoft Excel 2013
กราฟ เปนอีกวิธีหนึ่งที่ใชแสดงขอมูลที่เปนตัวเลขไดอยางชัดเจน และสื่อความหมายไดมากขึ้น
โดยเฉพาะขอมูลที่ใชเปรียบเทียบหรือแสดงแนวโนมของคาตางๆ เชน รายรับ-รายจาย เงินเดือน หรือ
ขอมูลทางวิทยาศาสตร เปนตน
สิ่งที่ตองพิจารณากอนการสรางกราฟ
การสรางกราฟใน Microsoft Excel สิ่งสําคัญที่ตองพิจารณา คือ ขอมูลที่จะนํามาสรางกราฟ
ลักษณะขอมูลที่จะนํามาสรางกราฟ และชนิดของกราฟที่ตองการนําเสนอ
ขั้นตอนในการสรางกราฟ
1. เลือกกลุมขอมูลที่จะนํามาสรางกราฟ เมื่อเลือกแลวกลุมขอมูลจะเปนแถบสี (Highlight) ดัง
รูปที่ 2 3
.
รูปที่ 23. การเลือกกลุมขอมูลในการสรางกราฟ
2. ที่แถบเมนูใหเลือกแถบแทรก (INSERT) จากนั้นใหผูใชเลือกคําสั่งสรางกราฟซึ่งทําไดดังนี้
วิธีที่ 1 เลือกคําสั่งสรางกราฟที่แผนภูมิที่แนะนํา (Recommended Charts) ซึ่งจะพบกราฟ
แบบตางๆ ทั้งหมด หรือเลือกที่แผนภูมิ (Charts) ซึ่งเปนคําสั่งสรางกราฟที่ใชบอย ดังรูปที่ 24.
รูปที่ 24. การสรางกราฟดวย Recommended Charts หรือ Charts
เลือก แถบ INSERT
คําสั่งสรางกราฟแบบตางๆ
18 | P a g e
วิธีที่ 2 ใชเครื่องมือที่เรียกวา Quick Analysis (Ctrl+Q) เมื่อผูใชเลือกกลุมขอมูลที่ตองการแลว
จะพบเครื่องหมาย ปรากฏอยูที่มุมขวาดานลาง ใหผูใชเลือก CHARTS เพื่อเลือกรูปแบบ
กราฟที่ตองการสราง ดังรูปที่ 25.
รูปที่ 25. การสรางกราฟดวย Quick Analysis
3. เมื่อคลิกเลือกประเภทของกราฟแลว จะปรากฏกราฟบน Work Sheet ในที่นี้เลือกกราฟ
ประเภท Clustered Column ดังรูปที่ 26.
รูปที่ 26. กราฟที่ไดจากการเลือกประเภทกราฟ Clustered Column
4. ปรับแตงกราฟตามตองการ ผูใชสามารถทําไดดังนี้
วิธีที่ 1 คลิกที่กราฟแลวที่แถบเครื่องมือ (Tool Bar) จะปรากฏ แถบเครื่องมือแผนภูมิ (CHART
TOOLS) ซึ่งประกอบดวย แถบออกแบบ (DESIGN) และแถบรูปแบบ (FORMAT) ดังรูปที่ 27.
19 | P a g e
รูปที่ 27. การปรับแตงกราฟดวยแถบเครื่องมือแผนภูมิ
วิธีที่ 2 คลิกที่กราฟแลวทางดานขวาของกราฟจะปรากฏ ไอคอนปรับแตงกราฟ ดังรูปที่ 27.
การปรับแตงกราฟดวยไอคอนปรับแตงกราฟ สามารถทําไดดังนี้
• ปรับแตงองคประกอบ (Chart Elements) ของกราฟ เชน หัวเรื่องกราฟ (Chart Title)
คําอธิบายสีกราฟ (Legend) เปนตน ไดที่เครื่องหมาย ซึ่งอยูทางดานขวาของกราฟ
ดังรูปที่ 2 8
.
รูปที่ 28. การปรับแตงองคประกอบของกราฟ
• ปรับแตงกราฟ (Chart Styles) ไดแก รูปแบบ (STYLE) และสี (COLOR) ไดที่
เครื่องหมาย ซึ่งอยูทางดานขวาของกราฟ ดังรูปที่ 2 9
.
แถบเครื่องมือแผนภูมิ
ไอคอนปรับแตงกราฟ
20 | P a g e
รูปที่ 29. การปรับแตงกราฟ
• ปรับขอมูลที่แสดงในกราฟ (Chart Filters) ไดแก คาขอมูล (VALUES) และชื่อ (NAMES)
ไดที่เครื่องหมาย ซึ่งอยูทางดานขวาของกราฟ ดังรูปที่ 3 0
.
รูปที่ 30. การปรับขอมูลที่แสดงในกราฟ
การเปลี่ยนชนิด (รูปแบบ) กราฟ
เมื่อสรางกราฟเสร็จแลว ถาผูใชตองการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของกราฟ สามารถทําไดดังนี้
1. เลือกกราฟที่ตองการเปลี่ยนรูปแบบ
2. ที่แถบเครื่องมือแผนภูมิ เลือก DESIGN และหัวขอ Type เลือกเปลี่ยนชนิดแผนภูมิ (Change
Chart Type) ดังรูปที่ 3 1
.
รูปที่ 31. การเปลี่ยนชนิดกราฟ
ไอคอนเปลี่ยนชนิดแผนภูมิ
21 | P a g e
3. กรอบโตตอบเปลี่ยนชนิดแผนภูมิจะปรากฏขึ้น ใหผูใชเลือกรูปแบบกราฟที่ตองการเปลี่ยน
ดังรูปที่ 32.
รูปที่ 32. กรอบโตตอบเปลี่ยนชนิดกราฟ
การสรางกราฟผสมแบบ 2 แกน
สําหรับขอมูลทั่วไป กราฟจะประกอบดวย แกน X และ แกน Y อยางละ 1 แกน ในกรณีที่ขอมูล
มีคาที่แตกตางกันมาก หากนํามาสรางกราฟในลักษณะทั่วไปการแสดงผลอาจมองภาพไดยาก ดังนั้นขอมูล
ลักษณะนี้ จึงควรนําเสนอดวยกราฟแบบผสมที่มี 2 แกน ในที่นี้คือ สรางกราฟแกน Y เปน 2 แกน
(สามารถเพิ่มแกน X เปน 2 แกนได แตตองทําหลังจากเพิ่มแกน Y แกนที่ 2 แลวจึงจะมี Option ปรากฏ
ใหเลือก) ตัวอยางขอมูลที่มีคาแตกตางกันมาก แสดงดังรูปที่ 33.
22 | P a g e
แหลงขอมูล : สํานักงานสถิติแหงชาติ
รูปที่ 33. ตัวอยางขอมูลระหวางจํานวนอาจารยสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและจํานวนนักศึกษาชั้นปที่ 1
ตั้งแตปพุทธศักราช 2549 – 2557
จากรูปที่ 33. แสดงตัวอยางขอมูลระหวางจํานวนอาจารยสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและจํานวน
นักศึกษาชั้นปที่ 1 ตั้งแตปพุทธศักราช 2549 – 2557 ที่มีคาแตกตางกันมาก เมื่อนํามาสรางกราฟแกน
เดียวโดยแกน X แทนปพุทธศักราช และแกน Y แทนจํานวนอาจารย (กราฟแทงสีฟา) และจํานวน
นักศึกษา (กราฟแทงสีสม) จะสังเกตไดวา แทงกราฟของขอมูลจํานวนอาจารยต่ํามากทําใหดูไดยาก
แนวทางในการปรับปรุงคือ การทําใหเปนกราฟผสมแบบ 2 แกน ดังรูปที่ 34.
-
200,000
400,000
600,000
800,000
1,000,000
2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557
จํานวนอาจารย์สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ/นักศึกษาชั้นปีที่ 1
อาจารย์ นักศึกษา
23 | P a g e
หรือ
รูปที่ 34. การนําเสนอขอมูลที่มีคาแตกตางกันมาก ดวยกราฟผสมแบบ 2 แกน
จากรูปที่ 34. เปนกราฟผสมแบบ 2 แกน (แกน Y 2 แกน) ซึ่งปรับปรุงมาจากกราฟแกนเดียวใน
รูปที่ 33. จะสังเกตไดวา แกน X ทางซายมือแทนจํานวนนักศึกษา แกน Y ทางซายมือแทนจํานวน
นักศึกษา (กราฟแทงสีสม) และแกน Y ทางขวามือแทนจํานวนอาจารย (กราฟแทง/เสนสีฟา) ซึ่งในขณะนี้
กราฟแทง/เสนสีฟาดูไดงายขึ้น
ขั้นตอนในการสรางกราฟผสมแบบ 2 แกน (แกน Y 2 แกน) สามารถทําไดดังนี้
1. ปอนขอมูลที่ตองการสรางกราฟลงใน Excel
2. เลือกขอมูลที่ตองการแลวคลิกปุม Insert Chart เลือกประเภทกราฟเปน Combo Chart
จากนั้นกดปุม OK จะไดกราฟแกนเดียว (คาแกน X ที่ไดไมถูกตอง) ดังรูปที่ 35.
-
20,000
40,000
60,000
-
200,000
400,000
600,000
800,000
1,000,000
2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557
จํ
า
นวนอาจารย์
จํ
า
นวนนั
ก
ศึ
ก
ษา
จํานวนอาจารย์สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ/นักศึกษาชั้นปีที่ 1
นักศึกษา อาจารย์
-
10,000
20,000
30,000
40,000
50,000
60,000
-
200,000
400,000
600,000
800,000
1,000,000
2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557
จํ
า
นวนอาจารย์
จํ
า
นวนนั
ก
ศึ
ก
ษา
จํานวนอาจารย์สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ/นักศึกษาชั้นปีที่ 1
นักศึกษา อาจารย์
24 | P a g e
รูปที่ 35. การเลือกขอมูลที่ตองการสรางกราฟ แลวเลือกประเภทกราฟเปน Combo Chart
3. ทําการเปลี่ยนคาที่แกน X ใหถูกตอง (ในที่นี้คือ ป พ.ศ.) โดยคลิกที่กราฟ สังเกตที่แถบ
เครื่องมือดานบนจะปรากฏแถบ CHART TOOLS ที่แถบยอย DESIGN ใหเลือกไอคอน
Select Data ดังรูปที่ 36. จากนั้นจะพบกรอบโตตอบ Select Data Source เพื่อเลือกชวง
ขอมูลใหม ดังรูปที่ 37.
กดปุม OK
25 | P a g e
รูปที่ 36. การเลือกขอมูลที่ตองการสราง
รูปที่ 37. กรอบโตตอบ Select Data Source
4. ที่กรอบ Horizontal (Category) Axis Labels ใหคลิกปุม Edit จะปรากฏกรอบโตตอบ Axis
Labels จากนั้นใหทําการเลือกชวงขอมูลใหมที่ตองการ นั่นคือ คอลัมนป พ.ศ. แลวใหกดปุม
OK เพื่อออกจากการแกไข ผลที่ไดคือคาแกน X ที่ถูกตอง ดังรูปที่ 3 8
.
รูปที่ 38. กราฟแกนเดียวที่แสดงคาแกน X เปนป พ .
ศ
.
5. จากกราฟแกนเดียวที่ได ใหคลิกเลือกแทงกราฟที่ตองการนําไปสรางเปนแกน Y แกนที่สอง
(ในที่นี้ใหเลือกกราฟแทงสีฟา) จากนั้นใหคลิกขวาของเมาสจะปรากฏหนาตางเครื่องมือ ให
เลือก Format Data Series ดังรูปที่ 3 9
.
ไอคอน Select Data
กรอบโตตอบ Axis Labels
26 | P a g e
รูปที่ 39. หนาตางเครื่องมือสําหรับแกไข/ปรับปรุงกราฟ
6. หลังจากเลือก Format Data Series จะปรากฏแถบ Format Data Series ทางขวามือ ที่
SERIES OPTIONS เลือก Secondary Axis นั่นคือกําหนดใหกราฟที่เลือกอยู (ขณะนี้คือ
กราฟแทงสีฟา แทนจํานวนอาจารย) ถูกนําไปสรางเปนแกน Y อีกแกนเปน แกน Y แกนที่
สอง (Secondary Axis) นั่นเอง ดังรูปที่ 40.
รูปที่ 40. กําหนดกราฟที่ตองการนําไปสรางเปนแกน Y แกนที่สอง
7. ทําการเปลี่ยนชนิดของกราฟ โดยที่แถบเครื่องมือดานบนใหไปที่แถบ CHART TOOLS ที่
แถบยอย DESIGN ใหเลือกไอคอน Change Chart Type จะปรากฏกรอบโตตอบขึ้น
จากนั้นใหเลือก Chart Type เปน Line ใหกับ Series Name : อาจารย แลวคลิกปุม OK
ดังรูปที่ 4 1
.
เลือก Format Data
เลือก Secondary Axis
27 | P a g e
รูปที่ 41. การเปลี่ยนชนิดของกราฟ Series Name : อาจารย
8. ปรับแตงชื่อกราฟ ชื่อแกน จะไดกราฟผสมแบบ 2 แกน โดยมีขอมูลจํานวนนักเรียนเปนแกน
Y แกนหลักหรือแกนที่ 1 (Primary Axis) และขอมูลจํานวนอาจารยเปนแกน Y แกนรองหรือ
แกนที่ 2 (Secondary Axis) ดังรูปที่ 4 2
.
รูปที่ 42. การเปลี่ยนชนิดของกราฟ Series Name : อาจารย
การลบกราฟ
กราฟที่ไมใชแลว ตองการลบออก มีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกกราฟที่ตองการลบ
2. กดปุม Delete ที่คียบอรด
-
20,000
40,000
60,000
-
200,000
400,000
600,000
800,000
1,000,000
2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557
จํ
า
นวนอาจารย์
จํ
า
นวนนั
ก
ศึ
ก
ษา
จํานวนอาจารย์สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ/นักศึกษาชั้นปีที่ 1
นักศึกษา อาจารย์
เลือก Change Chart
ที่ Series Name : อาจารย
เลือก Line
28 | P a g e
หนังสือและแหลงคนควาเพิ่มเติม:
1. กัลยา วานิชยบัญชา. การวิเคราะหขอมูลทางสถิติดวย EXCEL. พิมพครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ :
สํานักพิมพจุฬาลงกรณ 2556.
2. การวิเคราะหทางสถิติและวิศวกรรมดวย Analysis ToolPak
ที่มา: http://office.microsoft.com/th-th/excel-help/HP010090842.aspx
29 | P a g e

เอกสารประกอบการอบรม Analysis

  • 1.
    เรียบเรียงโดย: ดร.สุภาวดี หิรัญพงศสิน ภาควิชาคณิตศาสตร สถิติและคอมพิวเตอร คณะวิทยาศาสตร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เอกสารประกอบการอบรม การวิเคราะหขอมูลและการนําเสนอผลของการวิจัย โดยใชโปรแกรม MICROSOFT EXCEL 2013 การประชุมเชิงปฏิบัติการ “เขียนบทความวิจัยโครงการเพาะพันธุปญญา สําหรับครู” 3 เมษายน 2559 หองประชุมศรีเมืองใหม ชั้น 3 อาคารสํานักงานอธิการบดี (หลังใหม) มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
  • 2.
    สารบัญ บทนํา 2 การวิเคราะหขอมูลเบื้องตนโดยใชโปรแกรม MicrosoftExcel 2013 2 ขั้นตอนการเตรียมการเพื่อวิเคราะหขอมูล 2 ตัวอยางการวิเคราะหขอมูล 5 ขั้นตอนการวิเคราะหขอมูล 8 การนําเสนอผลของการวิจัย 15 การสรางกราฟ (Chart) ใน Microsoft Excel 2013 18 สิ่งที่ตองพิจารณากอนการสรางกราฟ 18 ขั้นตอนในการสรางกราฟ 18 การเปลี่ยนชนิด (รูปแบบ) กราฟ 21 การสรางกราฟผสมแบบ 2 แกน 22 การลบกราฟ 28 1 | P a g e
  • 3.
    การวิเคราะหขอมูลและการนําเสนอผลของการวิจัย โดยใชโปรแกรม Microsoft Excel2013 บทนํา การวิจัยทางการศึกษา หมายถึง กระบวนการ (Process) ในการแสวงหาความรูที่จะนําไปใชใน การพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา สําหรับกระบวนการดังกลาวนี้เปนกระบวนการวิจัยซึ่งประกอบดวย ขั้นตอนพื้นฐาน 5 ขั้นตอน ไดแก 1) การกําหนดปญหา 2) การสรางสมมติฐาน ศึกษาขอมูลและ รายละเอียดที่เกี่ยวกับปญหา 3) การเก็บรวบรวมขอมูล 4) การวิเคราะหขอมูล และ 5) การสรุปผลขอมูล เอกสารประกอบการอบรมนี้ จะกลาวถึงขั้นตอนที่สําคัญขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการวิจัย นั่นคือ การวิเคราะหขอมูล เมื่อผูวิจัยเก็บรวบรวมขอมูลและตรวจสอบความถูกตองของขอมูลแลว จะดําเนินการ กับขอมูลเหลานั้นดวยโปรแกรมสําเร็จรูปที่ใชสําหรับวิเคราะหขอมูลได โปรแกรมสําเร็จรูปที่นิยมใช สําหรับการวิเคราะหขอมูลในปจจุบันมีอยูดวยกันหลายโปรแกรม เชน SPSS (Statistical Package for the Social Sciences) SAS (Statistical Analysis System) และ STATA เปนตน อยางไรก็ดีแตละโปรแกรมมีจุดเดนที่แตกตางกัน ผูใชสามารถเลือกใชโปรแกรมเหลานี้ตาม ลักษณะของขอมูลหรือการใชงานของผูใชเอง นอกจากโปรแกรมที่ไดกลาวขางตนแลว โปรแกรม Microsoft Excel เปนอีกโปรแกรมหนึ่งที่สามารถนํามาใชในการวิเคราะหขอมูลไดเชนกัน ในที่นี้จะใช Microsoft Excel 2013 เพื่อเปนเครื่องมือในการวิเคราะหขอมูล ดังจะกลาวในหัวขอถัดไป การวิเคราะหขอมูลเบื้องตนโดยใชโปรแกรม Microsoft Excel 2013 การวิเคราะหขอมูลหรือคาทางสถิติเบื้องตน ดวยโปรแกรม Microsoft Excel 2013 สามารถ ศึกษารายละเอียดไดในหัวขอตอไปนี้ ขั้นตอนการเตรียมการเพื่อวิเคราะหขอมูล การวิเคราะหขอมูลเบื้องตนโดยใชโปรแกรม Microsoft Excel 2013 ผูใชจําเปนตองใชเครื่องมือ (Tool) ที่ชื่อวา Data Analysis หากเครื่องที่ผูใชใชในการวิเคราะหขอมูลไมมีเครื่องมือดังกลาว ผูใชตอง ทําการติดตั้งเครื่องมือ Data Analysis นี้กอน โดยมีขั้นตอนการติดตั้งดังตอไปนี้ 1. เปดโปรแกรม Microsoft Excel 2013 2. คลิกที่เมนูไฟล (File) คลิกที่เมนู Options (หรือ เมนูตัวเลือก) จะปรากฏดังรูปที่ 1. 2 | P a g e
  • 4.
    รูปที่ 1. แถบเมนูภายใตเมนู Options 3. คลิกที่เมนู Add-Ins จะปรากฏดังรูปที่ 2. จากนั้นคลิกเลือกที่ Analysis ToolPak ภายใต หัวขอ Inactive Application Add-ins และคลิกเลือก Excel Add-ins ภายใตหัวขอ Manage ที่สวนดานลางของกรอบโตตอบ รูปที่ 2. เครื่องมือ Add-ins ตางๆ ของ Microsoft Office ภายใตเมนู Add-Ins 3 | P a g e
  • 5.
    4. คลิกปุม Goจะปรากฏดังรูปที่ 3. รูปที่ 3. เครื่องมือ Add-ins ภายใต Analysis ToolPak 5. คลิกเลือกเครื่องมือตามรูปที่ 4. จากนั้นคลิกปุม OK รูปที่ 4. เลือกเครื่องมือ Add-ins ภายใต Analysis ToolPak 6. เมื่อเครื่องมือ Data Analysis ถูกติดตั้งเรียบรอยแลวจะปรากฏที่ริบบอนในแถบขอมูล (Data) ดังรูปที่ 5. รูปที่ 5. Data Analysis ถูกติดตั้งเรียบรอยแลว โดยปรากฏที่ริบบอนในแถบขอมูล (Data) 4 | P a g e
  • 6.
    7. เมื่อคลิกเลือกที่เครื่องมือ DataAnalysis จะปรากฏกรอบโตตอบเพื่อใหผูใชเลือกเครื่องมือ วิเคราะหขอมูลภายใตหัวขอ Analysis Tools ดังแสดงในรูปที่ 6. รูปที่ 6. กรอบโตตอบเพื่อเลือกเครื่องมือวิเคราะหขอมูล (Analysis Tools) ตัวอยางการวิเคราะหขอมูล ขอมูล (Data) จากแบบสอบถาม ในการวิเคราะหขอมูลนั้นจําเปนตองมีการเก็บขอมูล ซึ่งอาจเก็บไดจากแบบสอบถามที่สรางขึ้นมา โดยการเก็บรวบรวมขอมูลจากแบบสอบถามตามขนาดของตัวอยางที่เหมาะสม แลวสามารถใชโปรแกรม Microsoft Excel ชวยในการวิเคราะหขอมูลได วิธีดําเนินการ 1. กําหนดหัวขอแบบสอบถาม (ตัวอยางในที่นี้ คือ แบบสอบถามความพึงพอใจในการนําเสนองาน) 2. ออกแบบแบบสอบถาม โดยใหกําหนดประเด็นที่ตองการประเมินใหสอดคลองกับวัตถุประสงค ของการประเมิน และกลุมเปาหมาย (อาจกําหนดเปนดานหลักๆ แลวจึงกําหนดเปนประเด็น ยอยๆ ภายใตดานนั้นๆ) 3. เก็บขอมูลจากกลุมเปาหมาย โดยใหกลุมเปาหมายตอบแบบสอบถามตามที่ไดออกแบบไว ตาม ความเปนจริง 4. นําขอมูลที่ไดจากการเก็บขอมูลมาวิเคราะหเพื่อคาระดับความพึงพอใจ โดยการใชโปรแกรม Excel 5 | P a g e
  • 7.
  • 8.
    การแปรขอมูล เมื่อผูประเมินไดทําการประเมินเรียบรอยแลว ขั้นตอนตอไปเปนการนําขอมูลประเมินที่ไดมา วิเคราะหเพื่อนําเสนอผลการวิจัย อยางไรก็ดีเพื่อใหงายตอการประมวลผลในขั้นตอนของการวิเคราะห ขอมูลผูวิจัยจําเปนตองแปรขอมูลที่ไดจากแบบสอบถามใหเปนตัวเลข แลวจึงกรอกขอมูลลงในฐานขอมูล Excel การแปรขอมูลในแตละสวนของแบบสอบถาม สามารถทําไดดังนี้ ตอนที่ 1 สถานภาพสวนตัวของผูตอบแบบสอบถาม เปนขอมูลที่เปนเชิงคุณภาพ ตองแปลงใหเปนตัวเลข ซึ่งเปนการกําหนดคําอธิบายใหกับคาตัวแปร โดยกําหนดดังนี้ • เพศ ชาย = 1 หญิง = 2 • อายุ ต่ํากวา 21 ป = 1 21-30 ป = 2 31- 40 ป = 3 41- 50 ป = 4 และมากกวา 50 ป = 5 • สถานภาพ อาจารย = 1 นักเรียน/นักศึกษา = 2 เจาหนาที่ = 3 บุคคลภายนอก = 4 และอื่นๆ = 5 • ระดับการศึกษา ประถมศึกษา = 1 มัธยมศึกษา = 2 อนุปริญญาหรือเทียบเทา = 3 ปริญญาตรีหรือเทียบเทา = 4 สูงกวาปริญญาตรี = 5 ตอนที่ 2 ความพึงพอใจในการนําเสนอ เปนขอมูลที่เปนเชิงคุณภาพ ตองแปลงใหเปนตัวเลข โดยกําหนดให 1=นอยที่สุด 2=นอย 3= ปานกลาง 4=มาก 5=มากที่สุด ตอนที่ 3 ขอเสนอแนะและความคิดเห็นอื่นๆ เสนอเปนความเรียง หรือเสนอเรียงตามลําดับความถี่ของขอมูล (ไมตองนําไปกรอกใน Excel) การกรอกขอมูลลงในฐานขอมูล Excel สมมติใหกลุมตัวอยาง/ประชากรที่ตอบแบบสอบถามมีจํานวน 20 คน จะไดแบบสอบถามจํานวน 20 ฉบับ เมื่อบันทึกขอมูลลงใน Excel แลว แสดงไดดังรูปที่ 7. รูปที่ 7. การกรอกขอมูลจากแบบสอบถามลงในฐานขอมูล Excel 7 | P a g e
  • 9.
    ขั้นตอนการวิเคราะหขอมูล จากตัวอยางแบบสอบถามขางตนที่ประกอบดวย 3 สวนไดแก สวนที่ 1 สถานภาพสวนตัวของ ผูตอบแบบสอบถาม สวนที่ 2 ความพึงพอใจในการนําเสนอ และสวนที่ 3 ขอเสนอแนะและความคิดเห็น อื่นๆ โดยแตละสวนจะมีวัตถุประสงคในการประเมินที่ตางกัน นั่นคือ สวนที่ 1 ประเมินเพื่อใหทราบวากลุมตัวอยาง/ประชากร (ผูตอบแบบสอบถาม) มีขอมูลพื้นฐาน เปนอยางไร แสดงใหเห็นภูมิหลังของผูประเมิน สวนที่ 2 ประเมินเพื่อใหทราบวาระดับความพึงพอใจในการนําเสนอ อยูในระดับใด เชน ดีมาก ดี หรือปานกลาง เปนตน แสดงใหเห็นความเชื่อมั่นของผูประเมินที่มีตอกิจกรรมนั้น สวนที่ 3 ประเมินเพื่อใหทราบวากิจกรรมนั้นสวนเพิ่มเติมใดๆ ที่ไดรับการยอมรับ (ประเด็นที่ไมได มีในแบบสอบถาม) สวนใดตองปรับปรุง หรือสวนใดที่เปนคําแนะนําที่สามารถนําไปพัฒนาตอเพื่อใหเกิด ประโยชนตอกิจกรรมอื่นได ดังนั้น การวิเคราะหขอมูลในแตละสวนจะแตกตางกัน เพื่อใหงายตอการวิเคราะหขอมูล เครื่องมือ หรือวิธีการวิเคราะหในแตละสวน สามารถทําไดดังนี้ สวนที่ 1 ผูวิจัยสามารถเลือกใชเครื่องมือ Data Analysis เทคนิค Histogram ได สวนที่ 2 ผูวิจัยสามารถเลือกใชเครื่องมือ Data Analysis เทคนิค Descriptive Statistics ได สวนที่ 3 ผูวิจัยสามารถสรุปประเด็นที่เดนชัดแลวนํามาเขียนเปนความเรียงได (อาจไมตองใช โปรแกรม Excel) การวิเคราะหขอมูล : สวนที่ 1 สถานภาพสวนตัวของผูตอบแบบสอบถาม ในสวนนี้ ตัวอยางขอมูลที่ใชในการวิเคราะห คือ เพศ ผูวิจัยสามารถเลือกวิเคราะหขอมูลอื่นๆ เชน อายุ ระดับการศึกษา หรือขอมูลพื้นฐานอื่นในแบบสอบถามเพิ่มเติมไดในภายหลัง โดยใชเครื่องมือ Data Analysis ขั้นตอนการวิเคราะหขอมูล โดยใชเทคนิค Histogram มีดังตอไปนี้ 1. ที่แถบเครื่องมือ DATA คลิกเลือกที่เครื่องมือ Data Analysis จะปรากฏกรอบโตตอบเพื่อ เลือกเครื่องมือวิเคราะหขอมูล (Analysis Tools) จากนั้นเลือกเทคนิค Histogram ซึ่งใชหา คาความถี่ของขอมูล ดังแสดงในรูปที่ 8. รูปที่ 8. ทําการเลือกเทคนิค Histogram 8 | P a g e
  • 10.
    2. กดปุม OKจะปรากฏกรอบโตตอบดังรูปที่ 9. รูปที่ 9. กรอบโตตอบ Histogram 3. ที่กรอบ Input ใหกําหนดชวงของขอมูลที่ตองการวิเคราะหที่ Input Range ในที่นี้ใหเลือก ชวงของขอมูล “เพศ” ($B$2:$B$21) และที่ Bin Range (ชวงของประเภทขอมูลทั้งหมด) ให เลือกชวง $R$5:$S$5 คลิกเลือกที่ Labels และที่กรอบ Output options ใหกําหนด ตําแหนงเซลลที่ตองการใสคาผลลัพธที่ Output Range ($Q$11) คลิกเลือกที่ Cumulative Percentage และคลิกเลือกที่ Chart Output ดังรูปที่ 10. รูปที่ 10. กําหนดคาตางๆ ในกรอบโตตอบ Histogram เพื่อวิเคราะหขอมูล Input Range ของเพศ Bin Range ของเพศ มี 2 ประเภท 9 | P a g e
  • 11.
    4. กดปุม OKจะไดผลลัพธดังรูปที่ 11. รูปที่ 11. ผลลัพธที่ไดจากการใชเทคนิค Histogram จากรูปที่ 11. ที่คอลัมน Bin หมายถึงประเภทของเพศ โดยหมายเลข 1 แทนเพศชาย หมายเลข 2 แทนเพศหญิง (ดูจากแบบสอบถาม) และ More หมายถึงเพศอื่นๆ คอลัมน Frequency คือความถี่หรือ จํานวนคนที่แบงตามเพศ และคอลัมน Cumulative หมายถึงเปอรเซนตหรือรอยละสะสมของจํานวนคน ที่แบงตามเพศ นอกจากนี้กราฟผลลัพธ Histogram จะถูกแสดงตามขอมูลของคอลัมนทั้ง 3 ขางตนดวย ผูวิจัยสามารถเขียนสรุปผลการวิเคราะหขอมูลไดดังนี้ ผูตอบแบบสอบถาม จํานวน 20 คน เปน ชาย จํานวน 11 คน คิดเปนรอยละ 55 และเปนหญิง จํานวน 9 คน คิดเปนรอยละ 45 การวิเคราะหขอมูล : สวนที่ 2 ความพึงพอใจในการนําเสนอ ผูวิจัยสามารถหาคาทางสถิติเชิงพรรณนา ซึ่งใชอธิบายคุณลักษณะของสิ่งที่ตองการศึกษากลุมใด กลุมหนึ่งเทานั้น และไมสามารถใชอางอิงไปยังกลุมขอมูลอื่นๆ ได เชน คาเฉลี่ย รอยละ และคาเบี่ยงเบน มาตรฐาน เปนตน ไดโดยใชเทคนิค Descriptive Statistics ขั้นตอนการวิเคราะหขอมูล โดยใชเทคนิค Descriptive Statistics มีดังตอไปนี้ 1. ที่แถบเครื่องมือ DATA คลิกเลือกที่เครื่องมือ Data Analysis จะปรากฏกรอบโตตอบเพื่อ เลือกเครื่องมือวิเคราะหขอมูล (Analysis Tools) จากนั้นเลือกเทคนิค Descriptive Statistics ดังแสดงในรูปที่ 12. รูปที่ 12. ทําการเลือกเทคนิค Descriptive Statistics 10 | P a g e
  • 12.
    2. กดปุม OKจะปรากฏกรอบโตตอบดังรูปที่ 13. รูปที่ 13. กรอบโตตอบ Descriptive Statistics 3. ที่กรอบ Input ใหกําหนดชวงของขอมูลที่ตองการวิเคราะห ในที่นี้เลือกชวงของขอมูลความ พึงพอใจดานเนื้อหา ($F$1:$J$21) ที่ Grouped By คลิกเลือกที่ Columns และคลิกเลือกที่ Labels in first row และที่กรอบ Output options สามารถเลือกใหผลลัพธไปแสดงตามที่ กําหนดได ไดแก ที่แผนงานเดิมใหกําหนดตําแหนงเซลลที่ตองการใสคาผลลัพธที่ Output Range หรือที่แผนงานใหม (New Worksheet Ply) หรือที่สมุดงานใหม (New Workbook) และคลิกเลือกที่ Summary statistics ดังรูปที่ 14. Input Range ด้านเนื้อหา 11 | P a g e
  • 13.
    รูปที่ 14. กําหนดคาตางๆในกรอบโตตอบ Descriptive Statistics เพื่อวิเคราะหขอมูล 4. กดปุม OK จะไดผลลัพธดังรูปที่ 15. รูปที่ 15. ผลลัพธที่ไดจากการใชเทคนิค Descriptive Statistics จากรูปที่ 15. แสดงคาทางสถิติเชิงพรรณนาของกลุมขอมูลดานเนื้อหาทั้ง 5 ขอ โดยที่: Mean: คามัชฌิมเลขคณิต (Arithmetic mean) คือคาเฉลี่ยของขอมูลทั้งหมด Standard Error: แสดงลักษณะการกระจายตัวของขอมูล คือยิ่งใกลคา 0 (ศูนย) แสดงวากลุม ตัวอยางมีการกระจายตัวใกลกับคาเฉลี่ยของประชากร Median: คามัธยฐาน คือคาของขอมูลที่จุดกึ่งกลางของการกระจายของขอมูลที่มีการเรียงลําดับ แลวจากคานอยไปหาคามาก โดย 50% ของขอมูลมีคาสูงกวาคามัธยฐาน และ 50% มีคาต่ํากวา คามัธยฐาน และมักใชในกรณีที่ การกระจายของขอมูลมีลักษณะไมเทากันทั้งสองขาง (Asymmetry) หรือมีลักษณะเบไปทางซายหรือทางขวา Mode: คาฐานนิยม คือคาของขอมูลที่มีความถี่ (ซ้ํากัน) มากที่สุดในขอมูลของชุดนั้น ๆ ซึ่งอาจมี มากกวาหนึ่งคา (ผลลัพธจะแสดงคาแรกที่เจอ) หรือไมมีเลยก็ได (ผลลัพธจะแสดง #N/A) Standard Deviation: สวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปนการวัดการกระจายของขอมูลวาจะ เบี่ยงเบนไปจากคาเฉลี่ยมากนอยเทาใด Sample Variance: คาความแปรปรวน เพื่อสะดวกในการคํานวณและหมดปญหาเกี่ยวกับ เครื่องหมายจึงยกกําลังสองของคาเบี่ยงเบนของคาเฉลี่ย 12 | P a g e
  • 14.
    Kurtosis: เปนการวัดลักษณะความโดงของขอมูล การพิจารณาความโดงพิจารณาเครื่องหมาย ดังนี้ Kurtosis= 0 แสดงวาความโดงปกติ Kurtosis = - แสดงวาความโดงต่ํากวาปกติ Kurtosis = + แสดงวามีความโดงสูงกวาปกติ Skewness: เปนการวัดการกระจายของขอมูลในลักษณะทิศทางของขอมูลวามีความเบไปใน ทิศทางใด Range: พิสัย เปนคาความแตกตางระหวางคาสูงสุดและคาต่ําสุด (พิสัย=คาสูงสุด-คาต่ําสุด) ของ ขอมูลชุดหนึ่ง ๆ การวัดการกระจายของขอมูลโดยใชพิสัยนี้ เปนคาที่แสดงการกระจายอยางคราว ๆ ไมใชการวัดที่ละเอียดและเชื่อถือไดมากนัก เพราะเปนคาที่ไดมาจากขอมูลเพียง 2 คาเทานั้น นิยมบอกคา สูงสุดและต่ําสุดแทน เพื่อใหสามารถบอกไดวา การกระจายขอมูลเปนอยางไร มักถูก นําเสนอคูกับคามัธยฐาน Minimum: คาต่ําสุดของขอมูลชุดนั้น Maximum: คาสูงสุดของขอมูลชุดนั้น Sum: ผลรวมของคาทั้งหมดของขอมูลชุดนั้น Count: จํานวนขอมูลทั้งหมด อยางไรก็ดีคาทางสถิติที่นิยมใช 2 คาในการสรุปผลการวิจัยเกี่ยวกับระดับความพึงพอใจ ไดแก Mean และ Standard Deviation นอกจากการวิเคราะหขอมูลโดย Excel ในสวนที่ 1 ที่ใช เทคนิค Histogram และสวนที่ 2 ที่ใช เทคนิค Descriptive Statistics ผูวิจัยสามารถใชเครื่องมือใน Excel ที่แถบเครื่องมือ HOME ที่กรอบ เครื่องมือ Editing ทางขวามือสุด โดยเลือกใชไอคอน เพื่อหาคา Mean และ Standard Deviation (S.D.) ไดเชนกัน ดังแสดงในรูปที่ 16. รูปที่ 16. ผลลัพธที่ไดจากการใชเทคนิค Descriptive Statistics จากรูปที่ 16. คา Mean ใชสูตร AVERAGE(ชวงของขอมูล) และคา S.D. ใชสูตร STDEV.S(ชวง ของขอมูล) ซึ่งทั้ง 2 สูตร สามารถเลือกใชไดจากไอคอน 13 | P a g e
  • 15.
    อยางไรก็ดี มีวิธีการวิเคราะหขอมูลอีกแบบหนึ่งที่นิยมใช นั่นคือการแสดงคารอยละของความพึง พอใจในแตละดานซึ่งวิธีนี้ผูวิจัยจะตองกรอกขอมูลลงในฐานขอมูล Excel โดยการนับจํานวนคนที่ ประเมินในแตละดาน แตละหัวขอที่ประเมิน จากนั้นจึงนํามาคํานวณเปนคารอยละ ดังแสดงในรูปที่ 17. รูปที่ 17. การวิเคราะหขอมูล โดยใชคารอยละ ขอมูล (Data) จากการทดลอง นอกจากขอมูลที่ไดจากแบบสอบถามแลว มีขอมูลที่ไดจากการทดลองที่ผูวิจัยสามารถใช โปรแกรม Excel ชวยในการวิเคราะหขอมูลเพื่อสรุปผลการวิจัยได ตัวอยางขอมูลแสดงในรูปที่ 18. รูปที่ 18. การกรอกขอมูลจากการทดลองลงในฐานขอมูล Excel การวิเคราะหขอมูล สําหรับขอมูลที่ไดจากการทดลองนี้ ผูวิจัยสามารถเลือกใชเครื่องมือไดดังนี้ 1. เครื่องมือ Data Analysis เทคนิค Descriptive Statistics 2. แถบเครื่องมือ HOME ที่กรอบเครื่องมือ Editing นับจํานวนคนที่ ประเมินในแต่ละด้าน คํานวณค่าร้อยละ ในแต่ละด้าน 14 | P a g e
  • 16.
    การนําเสนอผลของการวิจัย ขั้นตอนตอจากการวิเคราะหขอมูล คือการนําเสนอผลของการวิเคราะหขอมูล หรือผลของการ วิจัยวาผูวิจัยพบหรือไดขอสรุปใดจากการวิจัย ในสวนนี้จะอธิบายวิธีการนําเสนอผลของการวิจัย ทั้งจาก แบบสอบถามและการทดลอง ผูวิจัยสามารถศึกษาไดจากหัวขอตอไปนี้ ตัวอยางการนําเสนอผลของการวิจัยจากแบบสอบถาม การวิเคราะหขอมูลจากแบบสอบถามขางตน สามารถนําเสนอผลของการวิจัย ไดดังนี้ แบบที่ 1 นําเสนอดวยคาเฉลี่ยและคาสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แสดงดังรูปที่ 19. รูปที่ 19. การนําเสนอผลของการวิจัยจากแบบสอบถาม แบบที่ 1 15 | P a g e
  • 17.
    จากรูปที่ 19. สามารถเขียนสรุปผลการวิจัยไดวาความพึงพอใจเฉลี่ยในการนําเสนอผลงาน โดยรวมของผูตอบแบบสอบถามอยูในระดับความพึงพอใจมาก มีคาเทากับ 4.44 (S.D. = 0.50) โดยความ พึงพอใจเฉลี่ยทั้งดานเนื้อหาและดานการนําเสนออยูในระดับความพึงพอใจมาก มีคาเทากับ 4.45 (S.D. = 0.49) และ 4.42 (S.D. = 0.52) ตามลําดับ แบบที่ 2 นําเสนอดวยคารอยละ แสดงดังรูปที่ 20. รูปที่ 20. การนําเสนอผลของการวิจัยจากแบบสอบถาม แบบที่ 2 มากที่สุด มาก ปานกลาง นอย นอยที่สุด เนื้อหา 60 26 13 1 - 4.45 การนําเสนอ 56 30 14 - - 4.42 4.44 88.70 ดานที่ประเมิน ระดับความพึงพอใจ (รอยละ) ระดับเฉลี่ย ระดับเฉลี่ย เฉลี่ยรอยละ 16 | P a g e
  • 18.
    จากรูปที่ 20. สามารถเขียนสรุปผลการวิจัยไดวาความพึงพอใจเฉลี่ยในการนําเสนอผลงาน โดยรวมของผูตอบแบบสอบถามอยูในระดับความพึงพอใจมาก มีคาเทากับ 4.44 คิดเปนรอยละ 88.70 โดยความพึงพอใจเฉลี่ยทั้งดานเนื้อหาและดานการนําเสนออยูในระดับความพึงพอใจมาก มีคาเทากับ 4.45 และ 4.42 ตามลําดับ ตัวอยางการนําเสนอผลของการวิจัยจากการทดลอง การวิเคราะหขอมูลจากการทดลองขางตน สามารถนําเสนอผลของการวิจัยในรูปแบบกราฟได ดัง แสดงในรูปที่ 21. และรูปที่ 22. รูปที่ 21. การนําเสนอผลของการวิจัยจากการทดลองดวยกราฟ แบบที่ 1 จากรูปที่ 21. จะสังเกตไดวา แกน X คือวิธีดําขาว และแกน Y คือจํานวนตนขาวที่แตกกอ โดย กราฟแทงแทนลําดับที่ของกอขาวตั้งแต กอที่ 1 ถึง กอที่ 4 โดยมีกราฟเสนแทนคาเฉลี่ยของจํานวนตน ขาวที่แตกกอ รูปที่ 22. การนําเสนอผลของการวิจัยจากการทดลองดวยกราฟ แบบที่ 2 จากรูปที่ 22. จะสังเกตไดวา แกน X คือลําดับที่ของกอขาวตั้งแตกอที่ 1 ถึง กอที่ 4 และคาเฉลี่ย และแกน Y คือจํานวนตนขาวที่แตกกอ โดยกราฟแทงแทนวิธีดําขาว 3 วิธี ไดแก ดําถี่ นาเคมี ดําหลายตน ดําหาง นาอินทรีย ดําหลายตน และดําหาง นาอินทรีย ดําตนเดียว 17 | P a g e
  • 19.
    การสรางกราฟ (Chart) ในMicrosoft Excel 2013 กราฟ เปนอีกวิธีหนึ่งที่ใชแสดงขอมูลที่เปนตัวเลขไดอยางชัดเจน และสื่อความหมายไดมากขึ้น โดยเฉพาะขอมูลที่ใชเปรียบเทียบหรือแสดงแนวโนมของคาตางๆ เชน รายรับ-รายจาย เงินเดือน หรือ ขอมูลทางวิทยาศาสตร เปนตน สิ่งที่ตองพิจารณากอนการสรางกราฟ การสรางกราฟใน Microsoft Excel สิ่งสําคัญที่ตองพิจารณา คือ ขอมูลที่จะนํามาสรางกราฟ ลักษณะขอมูลที่จะนํามาสรางกราฟ และชนิดของกราฟที่ตองการนําเสนอ ขั้นตอนในการสรางกราฟ 1. เลือกกลุมขอมูลที่จะนํามาสรางกราฟ เมื่อเลือกแลวกลุมขอมูลจะเปนแถบสี (Highlight) ดัง รูปที่ 2 3 . รูปที่ 23. การเลือกกลุมขอมูลในการสรางกราฟ 2. ที่แถบเมนูใหเลือกแถบแทรก (INSERT) จากนั้นใหผูใชเลือกคําสั่งสรางกราฟซึ่งทําไดดังนี้ วิธีที่ 1 เลือกคําสั่งสรางกราฟที่แผนภูมิที่แนะนํา (Recommended Charts) ซึ่งจะพบกราฟ แบบตางๆ ทั้งหมด หรือเลือกที่แผนภูมิ (Charts) ซึ่งเปนคําสั่งสรางกราฟที่ใชบอย ดังรูปที่ 24. รูปที่ 24. การสรางกราฟดวย Recommended Charts หรือ Charts เลือก แถบ INSERT คําสั่งสรางกราฟแบบตางๆ 18 | P a g e
  • 20.
    วิธีที่ 2 ใชเครื่องมือที่เรียกวาQuick Analysis (Ctrl+Q) เมื่อผูใชเลือกกลุมขอมูลที่ตองการแลว จะพบเครื่องหมาย ปรากฏอยูที่มุมขวาดานลาง ใหผูใชเลือก CHARTS เพื่อเลือกรูปแบบ กราฟที่ตองการสราง ดังรูปที่ 25. รูปที่ 25. การสรางกราฟดวย Quick Analysis 3. เมื่อคลิกเลือกประเภทของกราฟแลว จะปรากฏกราฟบน Work Sheet ในที่นี้เลือกกราฟ ประเภท Clustered Column ดังรูปที่ 26. รูปที่ 26. กราฟที่ไดจากการเลือกประเภทกราฟ Clustered Column 4. ปรับแตงกราฟตามตองการ ผูใชสามารถทําไดดังนี้ วิธีที่ 1 คลิกที่กราฟแลวที่แถบเครื่องมือ (Tool Bar) จะปรากฏ แถบเครื่องมือแผนภูมิ (CHART TOOLS) ซึ่งประกอบดวย แถบออกแบบ (DESIGN) และแถบรูปแบบ (FORMAT) ดังรูปที่ 27. 19 | P a g e
  • 21.
    รูปที่ 27. การปรับแตงกราฟดวยแถบเครื่องมือแผนภูมิ วิธีที่2 คลิกที่กราฟแลวทางดานขวาของกราฟจะปรากฏ ไอคอนปรับแตงกราฟ ดังรูปที่ 27. การปรับแตงกราฟดวยไอคอนปรับแตงกราฟ สามารถทําไดดังนี้ • ปรับแตงองคประกอบ (Chart Elements) ของกราฟ เชน หัวเรื่องกราฟ (Chart Title) คําอธิบายสีกราฟ (Legend) เปนตน ไดที่เครื่องหมาย ซึ่งอยูทางดานขวาของกราฟ ดังรูปที่ 2 8 . รูปที่ 28. การปรับแตงองคประกอบของกราฟ • ปรับแตงกราฟ (Chart Styles) ไดแก รูปแบบ (STYLE) และสี (COLOR) ไดที่ เครื่องหมาย ซึ่งอยูทางดานขวาของกราฟ ดังรูปที่ 2 9 . แถบเครื่องมือแผนภูมิ ไอคอนปรับแตงกราฟ 20 | P a g e
  • 22.
    รูปที่ 29. การปรับแตงกราฟ •ปรับขอมูลที่แสดงในกราฟ (Chart Filters) ไดแก คาขอมูล (VALUES) และชื่อ (NAMES) ไดที่เครื่องหมาย ซึ่งอยูทางดานขวาของกราฟ ดังรูปที่ 3 0 . รูปที่ 30. การปรับขอมูลที่แสดงในกราฟ การเปลี่ยนชนิด (รูปแบบ) กราฟ เมื่อสรางกราฟเสร็จแลว ถาผูใชตองการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของกราฟ สามารถทําไดดังนี้ 1. เลือกกราฟที่ตองการเปลี่ยนรูปแบบ 2. ที่แถบเครื่องมือแผนภูมิ เลือก DESIGN และหัวขอ Type เลือกเปลี่ยนชนิดแผนภูมิ (Change Chart Type) ดังรูปที่ 3 1 . รูปที่ 31. การเปลี่ยนชนิดกราฟ ไอคอนเปลี่ยนชนิดแผนภูมิ 21 | P a g e
  • 23.
    3. กรอบโตตอบเปลี่ยนชนิดแผนภูมิจะปรากฏขึ้น ใหผูใชเลือกรูปแบบกราฟที่ตองการเปลี่ยน ดังรูปที่32. รูปที่ 32. กรอบโตตอบเปลี่ยนชนิดกราฟ การสรางกราฟผสมแบบ 2 แกน สําหรับขอมูลทั่วไป กราฟจะประกอบดวย แกน X และ แกน Y อยางละ 1 แกน ในกรณีที่ขอมูล มีคาที่แตกตางกันมาก หากนํามาสรางกราฟในลักษณะทั่วไปการแสดงผลอาจมองภาพไดยาก ดังนั้นขอมูล ลักษณะนี้ จึงควรนําเสนอดวยกราฟแบบผสมที่มี 2 แกน ในที่นี้คือ สรางกราฟแกน Y เปน 2 แกน (สามารถเพิ่มแกน X เปน 2 แกนได แตตองทําหลังจากเพิ่มแกน Y แกนที่ 2 แลวจึงจะมี Option ปรากฏ ใหเลือก) ตัวอยางขอมูลที่มีคาแตกตางกันมาก แสดงดังรูปที่ 33. 22 | P a g e
  • 24.
    แหลงขอมูล : สํานักงานสถิติแหงชาติ รูปที่33. ตัวอยางขอมูลระหวางจํานวนอาจารยสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและจํานวนนักศึกษาชั้นปที่ 1 ตั้งแตปพุทธศักราช 2549 – 2557 จากรูปที่ 33. แสดงตัวอยางขอมูลระหวางจํานวนอาจารยสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและจํานวน นักศึกษาชั้นปที่ 1 ตั้งแตปพุทธศักราช 2549 – 2557 ที่มีคาแตกตางกันมาก เมื่อนํามาสรางกราฟแกน เดียวโดยแกน X แทนปพุทธศักราช และแกน Y แทนจํานวนอาจารย (กราฟแทงสีฟา) และจํานวน นักศึกษา (กราฟแทงสีสม) จะสังเกตไดวา แทงกราฟของขอมูลจํานวนอาจารยต่ํามากทําใหดูไดยาก แนวทางในการปรับปรุงคือ การทําใหเปนกราฟผสมแบบ 2 แกน ดังรูปที่ 34. - 200,000 400,000 600,000 800,000 1,000,000 2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557 จํานวนอาจารย์สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ/นักศึกษาชั้นปีที่ 1 อาจารย์ นักศึกษา 23 | P a g e
  • 25.
    หรือ รูปที่ 34. การนําเสนอขอมูลที่มีคาแตกตางกันมากดวยกราฟผสมแบบ 2 แกน จากรูปที่ 34. เปนกราฟผสมแบบ 2 แกน (แกน Y 2 แกน) ซึ่งปรับปรุงมาจากกราฟแกนเดียวใน รูปที่ 33. จะสังเกตไดวา แกน X ทางซายมือแทนจํานวนนักศึกษา แกน Y ทางซายมือแทนจํานวน นักศึกษา (กราฟแทงสีสม) และแกน Y ทางขวามือแทนจํานวนอาจารย (กราฟแทง/เสนสีฟา) ซึ่งในขณะนี้ กราฟแทง/เสนสีฟาดูไดงายขึ้น ขั้นตอนในการสรางกราฟผสมแบบ 2 แกน (แกน Y 2 แกน) สามารถทําไดดังนี้ 1. ปอนขอมูลที่ตองการสรางกราฟลงใน Excel 2. เลือกขอมูลที่ตองการแลวคลิกปุม Insert Chart เลือกประเภทกราฟเปน Combo Chart จากนั้นกดปุม OK จะไดกราฟแกนเดียว (คาแกน X ที่ไดไมถูกตอง) ดังรูปที่ 35. - 20,000 40,000 60,000 - 200,000 400,000 600,000 800,000 1,000,000 2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557 จํ า นวนอาจารย์ จํ า นวนนั ก ศึ ก ษา จํานวนอาจารย์สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ/นักศึกษาชั้นปีที่ 1 นักศึกษา อาจารย์ - 10,000 20,000 30,000 40,000 50,000 60,000 - 200,000 400,000 600,000 800,000 1,000,000 2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557 จํ า นวนอาจารย์ จํ า นวนนั ก ศึ ก ษา จํานวนอาจารย์สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ/นักศึกษาชั้นปีที่ 1 นักศึกษา อาจารย์ 24 | P a g e
  • 26.
    รูปที่ 35. การเลือกขอมูลที่ตองการสรางกราฟแลวเลือกประเภทกราฟเปน Combo Chart 3. ทําการเปลี่ยนคาที่แกน X ใหถูกตอง (ในที่นี้คือ ป พ.ศ.) โดยคลิกที่กราฟ สังเกตที่แถบ เครื่องมือดานบนจะปรากฏแถบ CHART TOOLS ที่แถบยอย DESIGN ใหเลือกไอคอน Select Data ดังรูปที่ 36. จากนั้นจะพบกรอบโตตอบ Select Data Source เพื่อเลือกชวง ขอมูลใหม ดังรูปที่ 37. กดปุม OK 25 | P a g e
  • 27.
    รูปที่ 36. การเลือกขอมูลที่ตองการสราง รูปที่37. กรอบโตตอบ Select Data Source 4. ที่กรอบ Horizontal (Category) Axis Labels ใหคลิกปุม Edit จะปรากฏกรอบโตตอบ Axis Labels จากนั้นใหทําการเลือกชวงขอมูลใหมที่ตองการ นั่นคือ คอลัมนป พ.ศ. แลวใหกดปุม OK เพื่อออกจากการแกไข ผลที่ไดคือคาแกน X ที่ถูกตอง ดังรูปที่ 3 8 . รูปที่ 38. กราฟแกนเดียวที่แสดงคาแกน X เปนป พ . ศ . 5. จากกราฟแกนเดียวที่ได ใหคลิกเลือกแทงกราฟที่ตองการนําไปสรางเปนแกน Y แกนที่สอง (ในที่นี้ใหเลือกกราฟแทงสีฟา) จากนั้นใหคลิกขวาของเมาสจะปรากฏหนาตางเครื่องมือ ให เลือก Format Data Series ดังรูปที่ 3 9 . ไอคอน Select Data กรอบโตตอบ Axis Labels 26 | P a g e
  • 28.
    รูปที่ 39. หนาตางเครื่องมือสําหรับแกไข/ปรับปรุงกราฟ 6.หลังจากเลือก Format Data Series จะปรากฏแถบ Format Data Series ทางขวามือ ที่ SERIES OPTIONS เลือก Secondary Axis นั่นคือกําหนดใหกราฟที่เลือกอยู (ขณะนี้คือ กราฟแทงสีฟา แทนจํานวนอาจารย) ถูกนําไปสรางเปนแกน Y อีกแกนเปน แกน Y แกนที่ สอง (Secondary Axis) นั่นเอง ดังรูปที่ 40. รูปที่ 40. กําหนดกราฟที่ตองการนําไปสรางเปนแกน Y แกนที่สอง 7. ทําการเปลี่ยนชนิดของกราฟ โดยที่แถบเครื่องมือดานบนใหไปที่แถบ CHART TOOLS ที่ แถบยอย DESIGN ใหเลือกไอคอน Change Chart Type จะปรากฏกรอบโตตอบขึ้น จากนั้นใหเลือก Chart Type เปน Line ใหกับ Series Name : อาจารย แลวคลิกปุม OK ดังรูปที่ 4 1 . เลือก Format Data เลือก Secondary Axis 27 | P a g e
  • 29.
    รูปที่ 41. การเปลี่ยนชนิดของกราฟSeries Name : อาจารย 8. ปรับแตงชื่อกราฟ ชื่อแกน จะไดกราฟผสมแบบ 2 แกน โดยมีขอมูลจํานวนนักเรียนเปนแกน Y แกนหลักหรือแกนที่ 1 (Primary Axis) และขอมูลจํานวนอาจารยเปนแกน Y แกนรองหรือ แกนที่ 2 (Secondary Axis) ดังรูปที่ 4 2 . รูปที่ 42. การเปลี่ยนชนิดของกราฟ Series Name : อาจารย การลบกราฟ กราฟที่ไมใชแลว ตองการลบออก มีขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกกราฟที่ตองการลบ 2. กดปุม Delete ที่คียบอรด - 20,000 40,000 60,000 - 200,000 400,000 600,000 800,000 1,000,000 2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557 จํ า นวนอาจารย์ จํ า นวนนั ก ศึ ก ษา จํานวนอาจารย์สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ/นักศึกษาชั้นปีที่ 1 นักศึกษา อาจารย์ เลือก Change Chart ที่ Series Name : อาจารย เลือก Line 28 | P a g e
  • 30.
    หนังสือและแหลงคนควาเพิ่มเติม: 1. กัลยา วานิชยบัญชา.การวิเคราะหขอมูลทางสถิติดวย EXCEL. พิมพครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : สํานักพิมพจุฬาลงกรณ 2556. 2. การวิเคราะหทางสถิติและวิศวกรรมดวย Analysis ToolPak ที่มา: http://office.microsoft.com/th-th/excel-help/HP010090842.aspx 29 | P a g e