ตรรกศาสตร์เบื้องต้น โดย ครูอดุลย์  จันธิมา โรงเรียนฝายกวางวิทยาคม
1.   ประพจน์   (Propositions or Statements) บทนิยาม   ประพจน์ คือ ประโยคบอกเล่าหรือประโยคปฏิเสธ  ที่เป็นจริงหรือเท็จเพียงอย่าง ใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เช่น   โลกเป็นดาวเคราะห์  ( จริง ) สงขลาเป็นเมืองหลวงของไทย  ( เท็จ ) 12 + 3  = 15  ( จริง ) 0  เป็นจำนวนนับ  ( เท็จ ) ในตรรกศาสตร์การเป็น จริง หรือ เท็จ ของแต่ละประพจน์ เรียกว่า ค่าความจริง  (truth value) ของประพจน์
2.   การเชื่อมประพจน์ (1)  การเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อม  “  และ ” ถ้า  p  และ  q  เป็นประพจน์  p  และ  q  เขียนแทนด้วย  p  q ตารางค่าความจริงของ  p  q   เขียนได้ดังนี้ p  q  p  q T  T  T T  F  F F  T  F F  F  F ตัวอย่าง   p : 2  เป็นจำนวนคู่  (T)  ,  q : 2  มากกว่า  3  (F) p  q :  2  เป็นจำนวนคู่ และ  2  มากกว่า  3  (F)
(2)  การเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อม  “ หรือ ” ถ้า  p  และ  q  เป็นประพจน์  p  หรือ  q  เขียนแทนด้วย  p  q ตารางค่าความจริงของ  p  q   เขียนได้ดังนี้   p  q  p  q T  T  T T  F  T F  T  T F  F  F ตัวอย่าง   p : 2  เป็นจำนวนคี่  (F)  ,  q : 2  มากกว่า  3  (F) p  q :  2  เป็นจำนวนคี่ หรือ  2  มากกว่า  3  (F)
( 3 )  การเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อม  “ ถ้า ... แล้ว ... ” ถ้า  p  และ  q  เป็นประพจน์  ถ้า  p  แล้ว  q  เขียนแทนด้วย  p  q ตารางค่าความจริงของ  p  q   เขียนได้ดังนี้   p  q  p  q T  T  T T  F  F F  T  T F  F  T ตัวอย่าง   p : 2  เป็นจำนวนคี่  (F)  ,  q : 2  มากกว่า  3  (F) p  q :  ถ้า  2  เป็นจำนวนคี่ แล้ว  2  มากกว่า  3  (T)
( 4 )  การเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อม  “ ก็ต่อเมื่อ ”   ถ้า  p  และ  q  เป็นประพจน์  p  ก็ต่อเมื่อ  q  เขียนแทนด้วย  p  q ตารางค่าความจริงของ  p  q   เขียนได้ดังนี้   p  q  p  q T  T  T T  F  F F  T  F F  F  T ตัวอย่าง   p : 2  เป็นจำนวนคี่  (F)  ,  q : 2  มากกว่า  3  (F) p  q :  2  เป็นจำนวนคี่ ก็ต่อเมื่อ  2  มากกว่า  3  (T)
(5)  นิเสธของประพจน์ นิเสธของประพจน์  p  เขียนแทนด้วย   ~ p ตารางค่าความจริงของ  ~  p   เขียนได้ดังนี้ p  ~ p T  F F  T ตัวอย่าง   p : 0  เป็นจำนวนเต็ม  (T) ~ p :  0  ไม่เป็นจำนวนเต็ม   (F) q : 2   มากกว่า  3  (F) ~ q : 2  ไม่มากกว่า  3  (T)
การหาค่าความจริงของประพจน์   การหาค่าความจริงของประพจน์ที่มีตัวเชื่อม อาจทำได้รวดเร็วขึ้น โดยใช้แผนภาพดังนี้ ตัวอย่าง   กำหนดให้  p   เป็นจริง และ  q   เป็นเท็จ จงหาค่าความจริงของ  วิธีทำ  T  F  T T T T ดังนั้น  ประพจน์  มีค่าความจริงเป็น  จริง   *
ตัวอย่าง   กำหนดให้  p , r  เป็นจริง และ  q , s   เป็นเท็จ จงหาค่าความจริงของ วิธีทำ   T  F  T  F  F F  F  T F  T F ดังนั้น  ประพจน์  มีค่าความจริงเป็น  เท็จ *
การสร้างตารางค่าความจริง ประพจน์ที่มีตัวเชื่อม เช่น  เมื่อ  p , q  และ  r  เป็นประพจน์ย่อยที่ยังไม่ กำหนดค่าความจริง จะเรียก  p , q  และ  r  ว่า  ตัวแปรแทนประพจน์  และเรียกประพจน์ ว่า  รูปแบบของประพจน์ ดังนั้น ในการพิจารณาค่าความจริงจึงต้องพิจารณาทุกกรณี โดยสร้างเป็นตาราง ดังนี้ ตัวอย่าง   จงสร้างตารางค่าความจริงของ วิธีทำ   p  q  ~q  T  T  F  F  T T  F  T  T  T F  T  F  F  T F  F  T  F  T
รูปแบบของประพจน์ที่สมมูลกัน ถ้ารูปแบบของประพจน์สองรูปแบบมีค่าความจริงเหมือนกันทุกกรณีแล้ว สามารถนำมาใช้แทนกันได้ และเรียกรูปแบบของประพจน์ดังกล่าวว่า  รูปแบบของประพจน์ที่สมมูลกัน เช่น   กับ  เขียนแทนด้วย p  q  ~p  T  T  F  T  T T  F  F  F  F F  T  T  T  T F  F  T  T  T ซึ่งแสดงด้วยตารางได้ดังนี้
รูปแบบของประพจน์ที่สมมูลกันที่สำคัญมีดังนี้
สัจนิรันดร์  (Tautology) บทนิยาม   รูปแบบของประพจน์ที่มีค่าความจริงเป็นจริงทุกกรณี เรียกว่า  สัจนิรันดร์ การพิจารณาว่าประพจน์ใดเป็นสัจนิรันดร์ ทำได้  2  วิธี คือ 1.  การพิจารณาจากตารางค่าความจริง ตัวอย่าง   จงแสดงว่า  เป็นสัจนิรันดร์ p  q  ~q  T  T  F  T  T T  F  T  F  T F  T  F  T  T F  F  T  T  T
2.  การพิจารณาโดยวิธีหาข้อขัดแย้ง ซึ่งวิธีนี้จะสมมุติให้รูปแบบของประพจน์ที่กำหนดให้เป็นเท็จ แล้วจึงหาค่าความจริงของประพจน์ย่อย หากมีข้อขัดแย้งกับที่สมมุติใว้ แสดงว่า รูปแบบของประพจน์นั้นเป็นสัจนิรันดร์ ตัวอย่าง   จงแสดงว่า  เป็นสัจนิรันดร์ วิธีทำ F T  F T  T  T F  T  T จะเห็นได้ว่าค่าความจริงของ  q   เกิดข้อขัดแย้ง ดังนั้น  แสดงว่าประพจน์  เป็นสัจนิรันดร์ *
7.  การอ้างเหตุผล การอ้างเหตุผล  คือการอ้างว่า เมื่อมีข้อความ  P 1  , P 2  , P 3  ,…,P n   ชุดหนึ่ง แล้วสามารถสรุปได้ข้อความ  C  การอ้างเหตุผลประกอบด้วยสองส่วนคือ เหตุหรือสิ่งที่กำหนดให้ ได้แก่  ข้อความ  P 1  , P 2  , P 3  ,…,P n   และ ผลหรือข้อสรุป ได้แก่ ข้อความ  C  การอ้างเหตุผลอาจจะสมเหตุสมผลหรือไม่สมเหตุสมผลก็ได้ ถ้า    เป็นสัจนิรัดร์  จะกล่าวว่า การอ้างเหตุผลนี้ สมเหตุสมผล  (valid)  ถ้า  ไม่เป็นสัจนิรันดร์ ก็กล่าวได้ว่า การอ้างเหตุผลนี้ ไม่สมเหตุสมผล  (invalid) ดังนั้น ในการตรวจสอบความสมเหตุสมผล จึงใช้วิธีเดียวกับการตรวจสอบสัจนิรันดร์
ตัวอย่าง   จงพิจารณาว่าการอ้างเหตุผลต่อไปนี้สมเหตุสมผลหรือไม่ เหตุ  1.   ถ้าฝนตกแล้วถนนลื่น   2.   ฝนไม่ตก   ผล  ถนนไม่ลื่น วิธีทำ   ให้  p   แทน  ฝนตก  และ  q   แทน  ถนนลื่น จะได้  ตรวจสอบรูปแบบของประพจน์ว่าเป็นสัจนิรันดร์หรือไม่ F T  F  T  T  T  F F  T จากแผนภาพ รูปแบบของประพจน์ไม่เป็นสัจนิรันดร์ ดังนั้น  การอ้างเหตุผล ไม่สมเหตุสมผล
8.  ประโยคเปิด   (open sentence) บทนิยาม   ประโยคเปิด คือ ประโยคบอกเล่าหรือประโยคปฏิเสธที่มีตัวแปร และเมื่อแทนค่า  ตัวแปรด้วยสมาชิกในเอกภพสัมพัทธ์แล้วจะได้ประพจน์ เช่น  เขาเป็นนักร้อง  เมื่อแทนเขาด้วย ภราดร  จะได้ประโยคเป็นเท็จ 2 x + 1 = 15  เมื่อแทน  x  ด้วย  7  จะได้ประโยคเป็นจริง ประโยคเปิดที่มี  x  เป็นตัวแปร เขียนแทนด้วย  P(x) , Q(x) , R(x) , …  และการเชื่อมประโยคเปิด ด้วยตัวเชื่อมทำได้เช่นเดียวกับประพจน์ ตัวอย่าง   1.  2. 3.
9.  ตัวบ่งปริมาณ   (quantifier) สัญลักษณ์  แทนสำหรับ  x  ทุกตัว สัญลักษณ์  แทนสำหรับ  x  บางตัว ตัวอย่าง   1)  สำหรับ  x  ทุกตัว  x+2 = 2+x  เขียนแทนด้วย [x+2 = 2+x] 2)  มีจำนวนเต็มบางจำนวนน้อยกว่า  1   เขียนแทนด้วย 3)  สำหรับจำนวนจริง  x  และ  y  ทุกตัว  x+3y = y+3x   เขียนแทนด้วย [x+3y = y+3x]
ประโยค  มีค่าความจริงเป็นจริง ก็ต่อเมื่อ แทน  x  ใน  P(x)   ด้วยสมาชิกทุกตัว ของ  U   แล้วได้ประพจน์ที่เป็นจริงทั้งหมด ประโยค  มีค่าความจริงเป็นเท็จ ก็ต่อเมื่อ แทน  x  ใน  P(x)   ด้วยสมาชิกอย่างน้อย หนึ่งตัวของ  U   แล้วได้ประพจน์ที่เป็นเท็จ ประโยค  มีค่าความจริงเป็นจริง ก็ต่อเมื่อ แทน  x  ใน  P(x)   ด้วยสมาชิกอย่างน้อย หนึ่งตัวของ  U   แล้วได้ประพจน์ที่เป็นจริง ประโยค  มีค่าความจริงเป็นเท็จ ก็ต่อเมื่อ แทน  x  ใน  P(x)   ด้วยสมาชิกทุกตัว ของ  U   แล้วได้ประพจน์ที่เป็นเท็จทั้งหมด 10.  ค่าความจริงของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณตัวเดียว บทนิยาม
ตัวอย่าง   จงพิจารณาว่าประโยคต่อไปนี้เป็นจริงหรือเท็จ . 1)  2)  3) 4) 5)
11.  สมมูลและนิเสธของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ รูปแบบที่  1     สมมูลกับ หรือ  นิเสธของ  คือ รูปแบบที่  2     สมมูลกับ หรือ  นิเสธของ  คือ ตัวอย่าง   จงหานิเสธของข้อความต่อไปนี้ 1) นิเสธคือ 2) นิเสธคือ 3)  จำนวนคี่ทุกจำนวนเป็นจำนวนเต็ม  นิเสธคือ  จำนวนคี่บางจำนวนไม่ใช่จำนวนเต็ม 4)   นิเสธคือ
12.  ค่าความจริงของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณสองตัว บทนิยาม ประโยค   มีค่าความจริงเป็นจริง ก็ต่อเมื่อ แทน  x  และ  y   ด้วยสมาชิกทุกตัว ใน  U  แล้วทำให้  P(x,y)   เป็นจริงเสมอ ประโยค มีค่าความจริงเป็นเท็จ ก็ต่อเมื่อ แทน  x  และ  y   ด้วยสมาชิกบางตัว ใน  U  แล้วทำให้  P(x,y)   เป็นเท็จ ตัวอย่าง   จงหาค่าความจริงของประโยคต่อไปนี้ 1)  2)
บทนิยาม ประโยค มีค่าความจริงเป็นจริง ก็ต่อเมื่อ แทน  x  และ  y   ด้วยสมาชิกบางตัว ใน  U  แล้วทำให้  P(x,y)   เป็นจริง ประโยค   มีค่าความจริงเป็นเท็จ ก็ต่อเมื่อ แทน  x  และ  y   ด้วยสมาชิกทุกตัว ใน  U  แล้วทำให้  P(x,y)   เป็นเท็จเสมอ ตัวอย่าง   จงหาค่าความจริงของประโยคต่อไปนี้ 1)  2)
บทนิยาม ประโยค   มีค่าความจริงเป็นจริง ก็ต่อเมื่อ แทน  x  ด้วยสมาชิกทุกตัว ใน  U  แล้วทำให้  เป็นจริง ประโยค   มีค่าความจริงเป็นเท็จก็ต่อเมื่อ แทน  x  ด้วยสมาชิกบางตัว ใน  U  แล้วทำให้  เป็นเท็จ ตัวอย่าง   จงหาค่าความจริงของประโยคต่อไปนี้ 1)  2)
บทนิยาม ประโยค   มีค่าความจริงเป็นจริง ก็ต่อเมื่อ แทน  x  ด้วยสมาชิกบางตัว ใน  U  แล้วทำให้  เป็นจริง ประโยค   มีค่าความจริงเป็นเท็จก็ต่อเมื่อ แทน  x  ด้วยสมาชิกทุกตัว ใน  U  แล้วทำให้  เป็นเท็จ ตัวอย่าง   จงหาค่าความจริงของประโยคต่อไปนี้ 1)  2)

Logic

  • 1.
    ตรรกศาสตร์เบื้องต้น โดย ครูอดุลย์ จันธิมา โรงเรียนฝายกวางวิทยาคม
  • 2.
    1. ประพจน์ (Propositions or Statements) บทนิยาม ประพจน์ คือ ประโยคบอกเล่าหรือประโยคปฏิเสธ ที่เป็นจริงหรือเท็จเพียงอย่าง ใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เช่น โลกเป็นดาวเคราะห์ ( จริง ) สงขลาเป็นเมืองหลวงของไทย ( เท็จ ) 12 + 3 = 15 ( จริง ) 0 เป็นจำนวนนับ ( เท็จ ) ในตรรกศาสตร์การเป็น จริง หรือ เท็จ ของแต่ละประพจน์ เรียกว่า ค่าความจริง (truth value) ของประพจน์
  • 3.
    2. การเชื่อมประพจน์ (1) การเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อม “ และ ” ถ้า p และ q เป็นประพจน์ p และ q เขียนแทนด้วย p q ตารางค่าความจริงของ p q เขียนได้ดังนี้ p q p q T T T T F F F T F F F F ตัวอย่าง p : 2 เป็นจำนวนคู่ (T) , q : 2 มากกว่า 3 (F) p q : 2 เป็นจำนวนคู่ และ 2 มากกว่า 3 (F)
  • 4.
    (2) การเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อม “ หรือ ” ถ้า p และ q เป็นประพจน์ p หรือ q เขียนแทนด้วย p q ตารางค่าความจริงของ p q เขียนได้ดังนี้ p q p q T T T T F T F T T F F F ตัวอย่าง p : 2 เป็นจำนวนคี่ (F) , q : 2 มากกว่า 3 (F) p q : 2 เป็นจำนวนคี่ หรือ 2 มากกว่า 3 (F)
  • 5.
    ( 3 ) การเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อม “ ถ้า ... แล้ว ... ” ถ้า p และ q เป็นประพจน์ ถ้า p แล้ว q เขียนแทนด้วย p q ตารางค่าความจริงของ p q เขียนได้ดังนี้ p q p q T T T T F F F T T F F T ตัวอย่าง p : 2 เป็นจำนวนคี่ (F) , q : 2 มากกว่า 3 (F) p q : ถ้า 2 เป็นจำนวนคี่ แล้ว 2 มากกว่า 3 (T)
  • 6.
    ( 4 ) การเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อม “ ก็ต่อเมื่อ ” ถ้า p และ q เป็นประพจน์ p ก็ต่อเมื่อ q เขียนแทนด้วย p q ตารางค่าความจริงของ p q เขียนได้ดังนี้ p q p q T T T T F F F T F F F T ตัวอย่าง p : 2 เป็นจำนวนคี่ (F) , q : 2 มากกว่า 3 (F) p q : 2 เป็นจำนวนคี่ ก็ต่อเมื่อ 2 มากกว่า 3 (T)
  • 7.
    (5) นิเสธของประพจน์นิเสธของประพจน์ p เขียนแทนด้วย ~ p ตารางค่าความจริงของ ~ p เขียนได้ดังนี้ p ~ p T F F T ตัวอย่าง p : 0 เป็นจำนวนเต็ม (T) ~ p : 0 ไม่เป็นจำนวนเต็ม (F) q : 2 มากกว่า 3 (F) ~ q : 2 ไม่มากกว่า 3 (T)
  • 8.
    การหาค่าความจริงของประพจน์ การหาค่าความจริงของประพจน์ที่มีตัวเชื่อม อาจทำได้รวดเร็วขึ้น โดยใช้แผนภาพดังนี้ ตัวอย่าง กำหนดให้ p เป็นจริง และ q เป็นเท็จ จงหาค่าความจริงของ วิธีทำ T F T T T T ดังนั้น ประพจน์ มีค่าความจริงเป็น จริง *
  • 9.
    ตัวอย่าง กำหนดให้ p , r เป็นจริง และ q , s เป็นเท็จ จงหาค่าความจริงของ วิธีทำ T F T F F F F T F T F ดังนั้น ประพจน์ มีค่าความจริงเป็น เท็จ *
  • 10.
    การสร้างตารางค่าความจริง ประพจน์ที่มีตัวเชื่อม เช่น เมื่อ p , q และ r เป็นประพจน์ย่อยที่ยังไม่ กำหนดค่าความจริง จะเรียก p , q และ r ว่า ตัวแปรแทนประพจน์ และเรียกประพจน์ ว่า รูปแบบของประพจน์ ดังนั้น ในการพิจารณาค่าความจริงจึงต้องพิจารณาทุกกรณี โดยสร้างเป็นตาราง ดังนี้ ตัวอย่าง จงสร้างตารางค่าความจริงของ วิธีทำ p q ~q T T F F T T F T T T F T F F T F F T F T
  • 11.
    รูปแบบของประพจน์ที่สมมูลกัน ถ้ารูปแบบของประพจน์สองรูปแบบมีค่าความจริงเหมือนกันทุกกรณีแล้ว สามารถนำมาใช้แทนกันได้และเรียกรูปแบบของประพจน์ดังกล่าวว่า รูปแบบของประพจน์ที่สมมูลกัน เช่น กับ เขียนแทนด้วย p q ~p T T F T T T F F F F F T T T T F F T T T ซึ่งแสดงด้วยตารางได้ดังนี้
  • 12.
  • 13.
    สัจนิรันดร์ (Tautology)บทนิยาม รูปแบบของประพจน์ที่มีค่าความจริงเป็นจริงทุกกรณี เรียกว่า สัจนิรันดร์ การพิจารณาว่าประพจน์ใดเป็นสัจนิรันดร์ ทำได้ 2 วิธี คือ 1. การพิจารณาจากตารางค่าความจริง ตัวอย่าง จงแสดงว่า เป็นสัจนิรันดร์ p q ~q T T F T T T F T F T F T F T T F F T T T
  • 14.
    2. การพิจารณาโดยวิธีหาข้อขัดแย้งซึ่งวิธีนี้จะสมมุติให้รูปแบบของประพจน์ที่กำหนดให้เป็นเท็จ แล้วจึงหาค่าความจริงของประพจน์ย่อย หากมีข้อขัดแย้งกับที่สมมุติใว้ แสดงว่า รูปแบบของประพจน์นั้นเป็นสัจนิรันดร์ ตัวอย่าง จงแสดงว่า เป็นสัจนิรันดร์ วิธีทำ F T F T T T F T T จะเห็นได้ว่าค่าความจริงของ q เกิดข้อขัดแย้ง ดังนั้น แสดงว่าประพจน์ เป็นสัจนิรันดร์ *
  • 15.
    7. การอ้างเหตุผลการอ้างเหตุผล คือการอ้างว่า เมื่อมีข้อความ P 1 , P 2 , P 3 ,…,P n ชุดหนึ่ง แล้วสามารถสรุปได้ข้อความ C การอ้างเหตุผลประกอบด้วยสองส่วนคือ เหตุหรือสิ่งที่กำหนดให้ ได้แก่ ข้อความ P 1 , P 2 , P 3 ,…,P n และ ผลหรือข้อสรุป ได้แก่ ข้อความ C การอ้างเหตุผลอาจจะสมเหตุสมผลหรือไม่สมเหตุสมผลก็ได้ ถ้า เป็นสัจนิรัดร์ จะกล่าวว่า การอ้างเหตุผลนี้ สมเหตุสมผล (valid) ถ้า ไม่เป็นสัจนิรันดร์ ก็กล่าวได้ว่า การอ้างเหตุผลนี้ ไม่สมเหตุสมผล (invalid) ดังนั้น ในการตรวจสอบความสมเหตุสมผล จึงใช้วิธีเดียวกับการตรวจสอบสัจนิรันดร์
  • 16.
    ตัวอย่าง จงพิจารณาว่าการอ้างเหตุผลต่อไปนี้สมเหตุสมผลหรือไม่ เหตุ 1. ถ้าฝนตกแล้วถนนลื่น 2. ฝนไม่ตก ผล ถนนไม่ลื่น วิธีทำ ให้ p แทน ฝนตก และ q แทน ถนนลื่น จะได้ ตรวจสอบรูปแบบของประพจน์ว่าเป็นสัจนิรันดร์หรือไม่ F T F T T T F F T จากแผนภาพ รูปแบบของประพจน์ไม่เป็นสัจนิรันดร์ ดังนั้น การอ้างเหตุผล ไม่สมเหตุสมผล
  • 17.
    8. ประโยคเปิด (open sentence) บทนิยาม ประโยคเปิด คือ ประโยคบอกเล่าหรือประโยคปฏิเสธที่มีตัวแปร และเมื่อแทนค่า ตัวแปรด้วยสมาชิกในเอกภพสัมพัทธ์แล้วจะได้ประพจน์ เช่น เขาเป็นนักร้อง เมื่อแทนเขาด้วย ภราดร จะได้ประโยคเป็นเท็จ 2 x + 1 = 15 เมื่อแทน x ด้วย 7 จะได้ประโยคเป็นจริง ประโยคเปิดที่มี x เป็นตัวแปร เขียนแทนด้วย P(x) , Q(x) , R(x) , … และการเชื่อมประโยคเปิด ด้วยตัวเชื่อมทำได้เช่นเดียวกับประพจน์ ตัวอย่าง 1. 2. 3.
  • 18.
    9. ตัวบ่งปริมาณ (quantifier) สัญลักษณ์ แทนสำหรับ x ทุกตัว สัญลักษณ์ แทนสำหรับ x บางตัว ตัวอย่าง 1) สำหรับ x ทุกตัว x+2 = 2+x เขียนแทนด้วย [x+2 = 2+x] 2) มีจำนวนเต็มบางจำนวนน้อยกว่า 1 เขียนแทนด้วย 3) สำหรับจำนวนจริง x และ y ทุกตัว x+3y = y+3x เขียนแทนด้วย [x+3y = y+3x]
  • 19.
    ประโยค มีค่าความจริงเป็นจริงก็ต่อเมื่อ แทน x ใน P(x) ด้วยสมาชิกทุกตัว ของ U แล้วได้ประพจน์ที่เป็นจริงทั้งหมด ประโยค มีค่าความจริงเป็นเท็จ ก็ต่อเมื่อ แทน x ใน P(x) ด้วยสมาชิกอย่างน้อย หนึ่งตัวของ U แล้วได้ประพจน์ที่เป็นเท็จ ประโยค มีค่าความจริงเป็นจริง ก็ต่อเมื่อ แทน x ใน P(x) ด้วยสมาชิกอย่างน้อย หนึ่งตัวของ U แล้วได้ประพจน์ที่เป็นจริง ประโยค มีค่าความจริงเป็นเท็จ ก็ต่อเมื่อ แทน x ใน P(x) ด้วยสมาชิกทุกตัว ของ U แล้วได้ประพจน์ที่เป็นเท็จทั้งหมด 10. ค่าความจริงของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณตัวเดียว บทนิยาม
  • 20.
    ตัวอย่าง จงพิจารณาว่าประโยคต่อไปนี้เป็นจริงหรือเท็จ . 1) 2) 3) 4) 5)
  • 21.
    11. สมมูลและนิเสธของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณรูปแบบที่ 1 สมมูลกับ หรือ นิเสธของ คือ รูปแบบที่ 2 สมมูลกับ หรือ นิเสธของ คือ ตัวอย่าง จงหานิเสธของข้อความต่อไปนี้ 1) นิเสธคือ 2) นิเสธคือ 3) จำนวนคี่ทุกจำนวนเป็นจำนวนเต็ม นิเสธคือ จำนวนคี่บางจำนวนไม่ใช่จำนวนเต็ม 4) นิเสธคือ
  • 22.
    12. ค่าความจริงของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณสองตัวบทนิยาม ประโยค มีค่าความจริงเป็นจริง ก็ต่อเมื่อ แทน x และ y ด้วยสมาชิกทุกตัว ใน U แล้วทำให้ P(x,y) เป็นจริงเสมอ ประโยค มีค่าความจริงเป็นเท็จ ก็ต่อเมื่อ แทน x และ y ด้วยสมาชิกบางตัว ใน U แล้วทำให้ P(x,y) เป็นเท็จ ตัวอย่าง จงหาค่าความจริงของประโยคต่อไปนี้ 1) 2)
  • 23.
    บทนิยาม ประโยค มีค่าความจริงเป็นจริงก็ต่อเมื่อ แทน x และ y ด้วยสมาชิกบางตัว ใน U แล้วทำให้ P(x,y) เป็นจริง ประโยค มีค่าความจริงเป็นเท็จ ก็ต่อเมื่อ แทน x และ y ด้วยสมาชิกทุกตัว ใน U แล้วทำให้ P(x,y) เป็นเท็จเสมอ ตัวอย่าง จงหาค่าความจริงของประโยคต่อไปนี้ 1) 2)
  • 24.
    บทนิยาม ประโยค มีค่าความจริงเป็นจริง ก็ต่อเมื่อ แทน x ด้วยสมาชิกทุกตัว ใน U แล้วทำให้ เป็นจริง ประโยค มีค่าความจริงเป็นเท็จก็ต่อเมื่อ แทน x ด้วยสมาชิกบางตัว ใน U แล้วทำให้ เป็นเท็จ ตัวอย่าง จงหาค่าความจริงของประโยคต่อไปนี้ 1) 2)
  • 25.
    บทนิยาม ประโยค มีค่าความจริงเป็นจริง ก็ต่อเมื่อ แทน x ด้วยสมาชิกบางตัว ใน U แล้วทำให้ เป็นจริง ประโยค มีค่าความจริงเป็นเท็จก็ต่อเมื่อ แทน x ด้วยสมาชิกทุกตัว ใน U แล้วทำให้ เป็นเท็จ ตัวอย่าง จงหาค่าความจริงของประโยคต่อไปนี้ 1) 2)